“รมว.คลัง” โต้ “ศิริกัญญา” พูดทำให้เศรษฐกิจดูแย่ มั่นใจต้องผลักดัน “จีดีพี” ให้โตถึงเป้า พร้อมแจงแนวทาง “ซื้อหนี้ประชาชน”
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง ชี้แจงภายหลังนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ดูเหมือนทุกอย่างแย่ คนไม่อาจคาดหวัง สรุปแบบนั้นไม่ได้ต้องมีความหวังแม้จะยากลำบาก ตนเห็นด้วยที่เศรฐกิจไม่ดีมายาวนาน เพราะเติบโตแค่ 1.9% มานาน อย่างไรก็ดีการตั้งตัวเลขจีดีพีไว้ 3% เพราะคาดหวัง และเชื่อว่าจะเติบโตแม้จะช้า โดย 6 เดือนที่ผ่านมา เราโต 3.1% ทำให้ต้องผลักดันไปให้ถึง
การส่งออก ในสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ส่งออกจำนวนมากกว่าบริโภคในประเทศ ซึ่งการส่งออกข้าวบางพันธุ์เสมอกับต้นทุน ไม่มีกำไร ขณะนี้การผลิต 17 ล้านตัน บริโภคในประเทศ 11 ล้านตัน และส่งออก 6 ล้านตัน สิ่งที่ต้องทำคือ ลดการผลิตให้น้อยลง โดยใช้พื้นที่เพาะปลูกทำอย่างอื่น เช่น 14 ล้านไร่เพื่อปลูก อีก 12 ล้านไร่ต้องลดพื้นที่ปลูกข้าว ดีที่สุดคือสิ่งที่นำเข้าต้องผลิตเอง โดยดูต้นทุนการนำเข้า เช่น ข้าวโพด หากทำให้ดี จะได้ไร่ละ 15,000-16,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการ 3-5 ปีที่ต้องดูแล
“การลงทุนอุตสาหกรรม นับหลายล้านบาท ในปีเดียวไม่ได้ ต้องพิจารณาว่าโครงสร้างเก่า เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมีนโยบายรักษาแพลตฟอร์มเดิมและปรับเป็นไฮบริดจ์ ในรถกะบะเพื่อการขนส่ง นอกจากนั้นเรื่องการแก้ปัญหาค่าไฟแพงจำเป็นต้องปรับโครงสร้าง ส่วนการกระตุ้นเศรฐกิจด้วยการท่องเที่ยวยอมรับว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ต้องหาทางให้นักท่องเที่ยวอยู่ให้นานขึ้น ทั้งนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวใปนประเทศไทยอยู่ที่ 35.5 ล้านคน ซึ่งพบว่ามีจำนวน3 ล้านคนเข้ามาเพื่อสาธารณสุข” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวอีกว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนไม่อยากเรียกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ต้องเติมเม็ดเงินเข้าไปในระบบ วันนี้หนี้ถึงระดับที่ทุกคนรับไม่ไหว การสเตเบิลคอยน์ต้องใช้ระวัง ทั้งนี้ตามกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลังไม่สามารถพิมพ์เงินใหม่เพื่อแข่งกับธปท. ได้ แต่ที่ต้องทำเพื่อให้มีสภาพคล่อง และเข้าถึงรายย่อยมากขึ้น ซึ่งจะเป็นจีโทเคน ไม่ใช่เงินใหม่ ซึ่งใครมีสามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนได้ หากเป็นแบบนี้ใครที่เงินฝาก 20,000 บาทสามารถซื้อธนบัตรรัฐบาลได้ ทั้งนี้ ธปท.ยังไม่เห็นด้วย

สำหรับการแก้หนี้ ปกติขั้นตอนทั่วไปต้องขอยืดหนี้ให้น้อยลง ยาวขึ้น ซึ่งทำได้เฉพาะคนที่มีกำลัง ทั้งนี้เป็นข้อเท็จจริงของการแก้หนี้ให้คนที่มีหนี้ไม่เยอะ เงินที่ช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ ใช้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง สำหรับหนี้ที่มี 13.6ล้านล้านบาท ไม่คิดว่าซื้อหนี้ทั้งระบบ เพราะไม่มีปัญญา ทั้งนี้ในจำนวนดังกล่าวมีหนี้ที่ไม่เสียปนอยู่ จำนวน 6 ล้านล้านบาท แต่จะเลือกซื้อหนี้เสียแล้ว แต่จะไม่เลือกกลุ่มที่ลูกหนี้กับเจ้าหนี้เจรจากัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ขนาดใหญ่ มีหลักทรัยพ์ค้ำประกัน เราจะเลือกลูกหนี้ที่ไม่มีปัญญา ไม่มีหลักทรัพย์ กู้มากินและตามตัวไม่ได้
“หนี้ที่มีปัญหา คือ 3 ล้านคน มีหนี้ติดอยู่ 1.2แสนล้านบาท ด้วยเงินนิดเดียวทำให้คนมีความทุกข์ ซึ่งจะทำให้หาทางละเว้นเอ็นซีบี เฉพาะกลุ่มมีรหัสพิเศษ หากหลุดพ้นต้องหาทางกู้ใหม่ คือการให้โอกาส ส่วนจะได้กู้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ วันนี้ให้ธนาคารออมสินนำร่องโดยใช้เงิน 4,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยน้อยพบว่า เปิดได้ 3 วัน มีเข้ามา 4.5 แสนบัญชี หากควบคุมได้กำกับดีจะช่วยแก้ปัญหาตัวเล็กๆ ได้” นายพิชัย ระบุ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘แพทองธาร’ เล่าเรื่องพ่อกลางสภา ยันไม่เกี่ยวปมชั้น 14 พร้อมพิสูจน์ความสามารถ
- ‘สุริยะ’ ยันแก้สัญญารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ไม่เอื้อเอกชน รัฐบาลยังไม่อนุมัติ
- ‘พิชัย’ แจงสภา! ยันรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โวส่งออกโตพุ่ง
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook : https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X : https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg