ผู้โดยสาร-เที่ยวบินเพิ่ม หนุน AOT ไตรมาสแรกโกยรายได้กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.41% กำไร 5.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.12%
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) เปิดเผยว่า รายงานผลประกอบการงวด 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนธันวาคม 2567 ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
Q1 รายได้รวม 17,906 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.41%
โดยมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 5,344.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 781.27 ล้านบาท คิดเป็น 17.12% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ AOT มีรายได้รวม 17,906.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.41%
ซึ่งรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 1,956.27 ล้านบาท คิดเป็น 12.45% แบ่งเป็น รายได้เกี่ยวกับกิจการการบินมีจํานวน 8,804.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,727.76 ล้านบาท คิดเป็น 24.41% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารของ ทอท. โดยเฉพาะจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 19.05% และ 21.52% ตามลำดับ และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินจํานวน 8,859.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 228.51 ล้านบาท คิดเป็น 2.65% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวม 10,353.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,086.70 ล้านบาท หรือ 11.73% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT งวด 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนธันวาคม 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวม 33.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16.41% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 20.85 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 12.77 ล้านคน
ในขณะที่มีจำนวนเที่ยวบินรวม 204,549 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.78% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 117,333 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 87,216 เที่ยวบิน
นโยบายกระตุ้นท่องเที่ยว-ท่องเที่ยวฟื้นตัว
ดร.กีรติ ได้กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นว่า เป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจของภาครัฐ และวันหยุดยาว (Golden Week) ของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากทั้งตลาดระยะไกล (Long Haul) และตลาดระยะใกล้ (Short Haul)
อีกทั้ง AOT ยังสนับสนุนนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการส่งเสริมเส้นทางการบินใหม่โดยลดค่าธรรมเนียมสำหรับสายการบินที่เปิดเส้นทางใหม่ โครงการลดค่าเช่าสำหรับสายการบินที่ย้ายไปใช้อาคาร SAT-1 และโครงการสนับสนุนการตลาดสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่และเชียงราย โดยการให้เงินสนับสนุน 300 บาทต่อผู้โดยสารหนึ่งคนสำหรับเที่ยวบินที่เข้าเงื่อนไข เป็นต้น
เป้าหมาย 1 ใน 20 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกภายใน 5 ปี
AOT ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาท่าอากาศยานให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับโลก โดยมีการยกระดับมาตรฐาน การให้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ให้มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมสนับสนุนการท่องเที่ยวและการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
อาทิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (SAT-1) ที่สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคน เป็น 65 ล้านคนต่อปี การสร้างระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติและทางวิ่งเส้นที่ 3 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ระยะที่ 3 ที่สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 30 ล้านคน เป็น 50 ล้านคนต่อปี รวมถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และท่าอากาศยานหาดใหญ่
นอกจากนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางแบบใหม่และความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้โดยสาร เช่น การนำระบบเช็กอินอัตโนมัติ ระบบตรวจจับและรับรู้ใบหน้าบุคคล (Biometric Identification) ระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (ABC) ที่รองรับ E-passport กว่า 90 ประเทศ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและเวลาในการตรวจหนังสือเดินทาง ระบบการจัดการข้อมูลแบบ A-CDM และระบบประตูทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ (SBG) เป็นต้น
ทั้งนี้ ตั้งเป้าที่จะเป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคและเชื่อมโยงการเดินทางทางอากาศแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับท่าอากาศยานของไทยให้เป็น 1 ใน 20 ท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลกภายใน 5 ปี และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดเป็น 1 ใน 10 ของโลก และสามารถแข่งขันในระดับสากลได้อย่างยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คาดอุตสาหกรรมการบิน ปี 2568 ฟื้นตัว เติบโตเท่าช่วงก่อนโควิด-19 ทะยานสู่อันดับที่ 9 ของโลกในปี 2576
- กบร. ไฟเขียว ขึ้นค่าธรรมเนียมสนามบิน ผู้โดยสารขาออก ระหว่างประเทศ-ในประเทศ 7 แห่ง
- เคาะสร้าง ‘รถไฟความเร็วสูง ระยะที่ 2’ โคราช-หนองคาย ระยะทาง 357 กม. วงเงิน 3.41 แสนล้านบาท
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook : https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X : https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg