Economics

บีบ ‘สถานตรวจสภาพรถ’ เปลี่ยนระบบวัดควันดำใหม่ ลดปัญหาฝุ่น PM2.5

กรมขนส่งฯ เข้ม “สถานตรวจสภาพรถเอกชน” ต้องเปลี่ยนระบบวัดควันดำใหม่ ช่วยลดฝุ่น PM2.5 โดยเริ่มจากผู้ขอใบอนุญาตรายใหม่ก่อน ส่วนรายเดิมจะทยอยเปลี่ยนใน 3 ปี

ควันดำ รถยนต์ 2

นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคมนาคม กำชับให้กรมการขนส่งฯ เข้มงวดในการตรวจสภาพรถ เพื่อป้องกันผลกระทบจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของรถประเภทต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)

ในปลายปีนี้ กรมการขนส่งฯ จึงเตรียมออกประกาศกรม กำหนดให้เอกชนรายใหม่ที่จะขอในอนุญาตประกอบกิจการสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) จะต้องติดตั้งเครื่องมือวัดควันดำ ที่เป็นระบบวัดความทึบแสง ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล เที่ยงตรง และแม่นยำ ถ้าหากผู้ประกอบการรายใดไม่ยอมติดตั้งระบบดังกล่าว กรมจะไม่ออกใบอนุญาตประกอบการให้

fig 03 04 2019 04 41 06

สำหรับสถานตรวจสภาพรถฯ ในปัจจุบัน ที่มีอยู่ 2,800 แห่งทั่วประเทศ ก็ต้องเร่งปรับเปลี่ยนระบบตรวจวัดควันคำ จากระบบกระดาษกรอง มาใช้ระบบวัดความทึบแสงแทนด้วย โดยที่ผ่านมากรมการขนส่งฯ และกรมควบคุมมลพิษ ได้เชิญสถานตรวจสภาพรถฯ ทั่วประเทศมาซักซ้อมความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและระบุว่ายังไม่พร้อม เพราะต้องลงทุนกว่า 1แสนบาท

กรมก็ได้ชี้แจงว่า การปรับเปลี่ยนระบบเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดปัญหามลพิษควันดำ แต่ในเบื้องต้นยังจะไม่บังคับให้เปลี่ยนทันที โดยอาจให้ระยะเวลาการปรับตัวและค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนภายใน 3-5 ปี

“เราเข้าใจว่าผู้ประกอบการอาจจะมีภาระลงทุนเพิ่ม แต่เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ เพราะระบบตรวจวัดด้วยกระดาษกรองนั้น ต่างประเทศเลิกกันนานแล้ว เพราะได้ค่าควันดำที่ไม่แม่นยำ และเพื่อลดผลกระทบเราจะให้สถานตรวจสภาพรถฯ ค่อยๆ ทยอยเปลี่ยน ซึ่งตามรอบใบอนุญาตประกอบการจะมีอายุ 3 ปี ในอนาคตหากสถานตรวจสภาพรถฯ รายใดครบอายุใบอนุญาต และต้องการมายื่นขอต่อใบอนุญาตใหม่ กรมจะกำหนดให้ต้องมีการติดตั้งเครื่องวัดแบบวัดความทึบแสงด้วย หากไม่ยอมติดตั้ง กรมก็จะไม่ต่อใบอนุญาตประกอบการให้” นายกมลกล่าว

 

Avatar photo