กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีแนวโน้มดัน GDP ไทยโตขึ้น 0.3% คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 4 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์ ภายใน 2 ปี
งานวิจัยเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งจัดทำโดย อโกด้า ร่วมกับบริษัท Access Partnership ได้ประเมินถึงโอกาสทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยจะได้รับจากการบังคับใช้กฎหมายสมรสเพศเดียวกันในวันที่ 22 มกราคม 2568
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่รับรองกฎหมายนี้ และเป็นประเทศที่สามในเอเชีย รองจากไต้หวันในปี 2562 และเนปาลเมื่อปีที่แล้ว กฎหมายดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ประเทศไทยดึงดูดนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 200 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
รายงานยังได้คาดการณ์ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะแพร่กระจายไปสู่เศรษฐกิจไทยในวงกว้างจากการบังคับใช้กฎหมายนี้ โดยคาดว่าใน 2 ปี จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 4 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมาก ดังนี้
เพิ่มรายรับจากการท่องเที่ยว จะเพิ่มขึ้นประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี โดยกระจายไปยังหลายภาคส่วน เช่น ประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ จากการจองที่พัก, 400 ล้านดอลลาร์ จากการบริการอาหารและเครื่องดื่ม, 400 ล้านดอลลาร์ จากการจับจ่ายซื้อสินค้า, 200 ล้านดอลลาร์ จากการเดินทางภายในประเทศ และอีก 200 ล้านดอลลาร์จากอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น ความบันเทิงและบริการทางการแพทย์
สนับสนุนการสร้างงานประจำเพิ่มอีก 1.52 แสนตำแหน่ง โดย 7.6 หมื่นตำแหน่งจะเกิดขึ้นโดยตรงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอีก 7.6 หมื่นตำแหน่งจะกระจายไปยังภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจไทย
ผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยเพิ่มขึ้น 0.3% แม้ประเทศไทยจะเป็นจุดหมายท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลกอยู่แล้ว แต่การออกกฎหมายสมรสเท่าเทียมในครั้งนี้จะยิ่งยกระดับความน่าสนใจของไทยในสายตานักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ที่มองหาจุดหมายที่เปิดกว้างและต้อนรับทุกคนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในยุคที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเริ่มให้ความสำคัญกับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายและเปิดกว้างมากขึ้น
เนื่องจากประเทศไทยจะเป็นประเทศที่สามในเอเชียที่ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายนี้จะทำให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวสำหรับคู่รัก LGBTQIA+ จากประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการเฉลิมฉลองการแต่งงานในประเทศที่ยอมรับการสมรสเพศเดียวกัน
นอกจากนี้ หลายเมืองในประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการแต่งงาน ทั้งในด้านความสวยงามของสถานที่และความพร้อมในการบริการที่หลากหลาย
กฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้ไม่เพียงช่วยกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมงานแต่งงานในไทย แต่ยังเปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่าง ๆ เช่น โรงแรม บริการจัดเลี้ยง และอุตสาหกรรมบันเทิง ได้รับประโยชน์อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถสร้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจในประเทศ พร้อมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับสากลว่าไทยเป็นประเทศที่ยอมรับและให้ความเท่าเทียมแก่ทุกเพศวิถีและเพศสภาพ
ปิติโชค จุลภมรศรี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาดของอโกด้า และผู้สนับสนุนของกลุ่ม Agoda Pride กล่าวว่า อโกด้าสนับสนุนชาว LGBTQIA+ มาตลอดทั้งในหมู่พนักงานและผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มอโกด้า
ปีนี้เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือและสนับสนุน Bangkok Pride Parade 2024 ด้วยงานวิจัยชิ้นนี้ เราต้องการเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของการส่งเสริมความหลากหลาย ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าและประโยชน์มากมายที่เกิดจากการยอมรับความแตกต่างและความหลากหลายในสังคม
วาดดาว ชุมาพร ประธานและผู้ก่อตั้งบางกอกนฤมิตรไพรด์ และผู้จัดงาน Bangkok Pride Festival 2024 กล่าวว่า การประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย ไม่เพียงในแง่ของการส่งเสริมสิทธิที่เท่าเทียมสำหรับชาว LGBTQIA+ แต่ยังช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางที่เปิดกว้างและปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน
Henry Koh ผู้อำนวยการบริหารของสมาพันธ์ International Lesbian, Gay, Bisexual, Trans and Intersex Association (ILGA) Asia กล่าวว่า ความจริงที่น่าเศร้าคือ นักเดินทาง LGBTQIA+ จากภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมากกว่าครึ่งเคยประสบกับการเลือกปฏิบัติระหว่างการเดินทาง ซึ่งทำให้ความปลอดภัยกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว
การบังคับใช้กฎหมายนี้จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมในหมู่ LGBTQIA+ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสใหม่ๆ ที่พวกเขาไม่สามารถหาได้จากที่อื่น เช่น การจัดงานแต่งงานในประเทศไทย
Access Partnership, บริษัทที่ปรึกษานโยบายสาธารณะชั้นนำ ได้ทำการวิเคราะห์จากประเทศที่ออกกฎหมายนี้ โดยผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ประเทศที่มีการออกกฎหมายฯ จะเห็นการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 10% ภายในสองปีหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้
ผลการศึกษายังชี้ให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะเลือกเดินทางไปยังประเทศที่สนับสนุนสิทธิของชาว LGBTQIA+ โดย 43% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะยกเลิกการเดินทางทันทีหากรู้สึกว่าประเทศปลายทางไม่ได้สนับสนุนสิทธิของชาว LGBTQIA+
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มหาดไทย เตรียมพร้อม ‘จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม’ ทุกอำเภอทั่วประเทศ 23 ม.ค. 2568
- ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม แล้ว
- 50 เขตกทม. ประกาศความพร้อม ‘จดทะเบียนสมรส เท่าเทียม’ มั่นใจต.ค.นี้กฎหมายลูกผ่านแน่
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx