เอกชน เร่งทำ “สมุดปกขาว” แนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ เสนอนายกฯ ชี้น้ำท่วมซ้ำเติมเศรษฐกิจเดือนเดียวเสียหาย 8 พันล้าน
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย โดยที่ประชุม กกร. ยินดีที่รัฐบาลสามารถจัดตั้งคณะรัฐมนตรีได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้
ซึ่งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้มีโอกาสเข้าพบท่านนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งมีโรงงานปิดตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 7 เดือนแรกกว่า 757 แห่ง มีหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจนอกระบบมีขนาดใหญ่
เร่งทำสมุดปกขาว เสนอแนวทางกระตุ้นเศรษกิจต่อรัฐบาล
ที่ประชุม กกร. จึงได้เร่งจัดทำสมุดปกขาว นำเสนอความคิดเห็นและข้อเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า
กกร. ยังประมาณการเศรษฐกิจ 2567 ขยายตัวอยู่ที่ 2.2-2.7% ขณะที่การส่งออกได้มีการปรับคาดการณ์อยู่ที่ 1.5-2.5% จากเดิม 0.8-1.5% ส่วนเงินเฟ้อยังคงอัตราเดิมอยู่ที่ 0.5-1.0% ประเมินเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง เครื่องชี้ด้านการผลิต PMI Manufacturing เดือนสิงหาคมของประเทศหลักทั้งสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ต่างหดตัว โดยสหรัฐส่งสัญญาณพร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากอาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ค่าระวางเรือยังสูงกว่าภาวะปกติ 3 เท่าตัวเป็นปัจจัยลบต่อการค้าโลก
ส่วนการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคมเติบโตถึง 15.2% จากแรงหนุนของวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ของโลก และคาดว่าทั้งปีจะเติบโตได้ 1.5-2.5% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 0.8-1.5% แต่การเติบโตดังกล่าวยังกระจุกตัวอยู่เฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้เป็นการเติบโตในวงกว้าง
อุปสงค์ภายในประเทศของไทยยังอ่อนแรงสะท้อนจากการลงทุน แม้ว่ารัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณลงทุน ทำให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเติบโตเฉลี่ยได้กว่า 20% ในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม เศรษฐกิจในไตรมาสที่สองที่ผ่านมายังชะลอตัว
โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนหดตัวมากถึง 6.8% เหตุสำคัญจากกลุ่มยานยนต์ที่ยอดขายในประเทศลดลงถึง 24% โดยการลงทุนในระยะข้างหน้ามีแนวโน้มชะลอสะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
น้ำท่วมซ้ำเติมเศรษฐกิจไทย มูลค่าความเสียหาย 6-8 พันล้าน
กกร. ยังมองว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม โดยคาดว่ามูลค่าความเสียหาย สำหรับช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนจะอยู่ที่ราว 6-8 พันล้านบาท หรือ 0.03-0.04% ของจีดีพี ซึ่งภาคเกษตรได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนในระยะถัดไปต้องติดตามพายุที่อาจจะเข้าได้ช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ถือเป็นความเสี่ยงต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม
โดยกกร. มีมติให้จัดตั้งคณะทำงานย่อยจัดทำข้อเสนอด้านการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเสนอต่อภาครัฐ โดยเน้นการวางแผนระยะยาวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำรอยเหมือนปี 2554 โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแหล่งน้ำและเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำทั่วประเทศ เพื่อให้การบริหารน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม และเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำ
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้มีการเชื่อมโยงระหว่างความต้องการน้ำ (Demand) และการจัดหาน้ำ (Supply) เพื่อให้สามารถจัดการน้ำได้อย่างเหมาะสม แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันจะไม่รุนแรงเท่าปี 2554 แต่คาดว่าในปี 2567 จะยังมีพายุพัดผ่านประเทศไทยอีก 2 ลูก ซึ่งอาจส่งผลกระทบในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2567 จึงต้องมีการเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดอ่างทองและพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา
นอกจากนี้ กกร. เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อมูลการเคลื่อนที่ของมวลน้ำในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงที และมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในการฟื้นฟูธุรกิจ เช่น มาตรการทางภาษี มาตรการบรรเทาต้นทุนการผลิต และมาตรการทางการเงิน เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เศรษฐกิจการคลังเดือนก.ค. 2567 ท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่งออกโต
- เศรษฐกิจการคลัง พ.ค.2567 ท่องเที่ยว-ส่งออก-สินค้าเกษตร ขยายตัว การลงทุนภาคเอกชนหดตัว
- เศรษฐกิจการคลัง เดือนเม.ย. 2567 ขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคท่องเที่ยว ส่งออกดีขึ้น
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg