เศรษฐกิจไทยปีหน้าลุ้นเหนื่อย! โตต่ำ การบริโภคและลงทุนเอกชนซบเซา การเมืองดึงนโยบายไม่แน่นอน
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 ที่ 2.5% และปรับลดมุมมองเศรษฐกิจปี 2568 เหลือ 2.6% หลังภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้
เศรษฐกิจไทย
SCB EIC คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 ที่ 2.5% และปรับลดมุมมองเศรษฐกิจปี 2568 เหลือ 2.6% หลังภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ออกมาใกล้เคียงที่ประเมินไว้ แต่แรงส่งเศรษฐกิจรายองค์ประกอบต่างไปบ้าง โดยเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังได้แรงส่งหลักจาก
- ภาคท่องเที่ยว ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นผลจากการทำตลาดของภาครัฐและการเพิ่มความถี่เที่ยวบินใน Winter schedule
- แรงสนับสนุนจากการบริโภคเอกชนตามมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชั่วคราว อย่างไรก็ดี มุมมองต่อการลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงมาก โดยมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2 โดยเฉพาะการลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยและการลงทุนยานพาหนะ สอดคล้องกับอุปสงค์ตลาดที่อยู่อาศัยและรถยนต์ที่หดตัว ท่ามกลางปัญหาหนี้ค้างชำระและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่ปรับสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี มองไปข้างหน้าภาคการผลิตและการส่งออกจะยังฟื้นตัวได้ช้า ประกอบกับเริ่มเห็นสัญญาณความเชื่อมั่นการบริโภค (โดยเฉพาะสินค้าคงทน) และการลงทุนในระยะสั้นที่แผ่วลงต่อเนื่อง เศรษฐกิจไทยจึงยังมีทิศทางเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการเมืองและนโยบายรัฐบาล
SCB EIC จึงปรับลดมุมมองเศรษฐกิจปี 2568 เหลือ 2.6% (เดิม 2.9%) จากการบริโภคเอกชนที่จะเติบโตชะลอลงท่ามกลางกำลังซื้อเปราะบางและหนี้สูง รวมถึงทิศทางการลงทุนภาคเอกชนที่แผ่วลง
สำหรับเงินเฟ้อ ประเมินเงินเฟ้อทั่วไปจะขยายตัวต่ำลงอยู่ที่ 0.6% (เดิม 0.8%) ในปีนี้ สะท้อนความต่อเนื่องของมาตรการภาครัฐชะลอการทยอยปรับขึ้นราคาพลังงานในประเทศตลอดปี โดยเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้ากรอบได้ในไตรมาส 4 ส่วนหนึ่งเพราะในช่วงเดียวกันของปีก่อนภาครัฐได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพด้านราคาพลังงานให้อยู่ในระดับต่ำหลายด้าน
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
SCB EIC คงมุมมอง กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้งในช่วงปลายปีนี้เหลือ 2.25% จากความจำเป็นในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ความเปราะบางเริ่มส่งผลมายังอุปสงค์ในประเทศ รวมถึงการลงทุนที่ชะลอลง นอกจากนี้ ภาคครัวเรือนอาจเผชิญภาวะการเงินตึงตัวแรงกว่าภาคส่วนอื่น เพราะได้รับผลกระทบจากมาตรฐานการให้สินเชื่อครัวเรือนของสถาบันการเงินที่ปรับเข้มงวดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาคครัวเรือนสามารถก่อหนี้ได้น้อยลงกว่าในอดีตมาก การเริ่มลดดอกเบี้ยในภาวะเช่นนี้จึงไม่ได้มีผลกระตุ้นการก่อหนี้มากจนน่ากังวล และไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการลดหนี้ในระบบเศรษฐกิจ (Debt deleveraging)
สำหรับปี 2025 ภาวะการเงินโลกจะมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ตามทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกอบกับเศรษฐกิจไทยจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงขึ้น ทั้งจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และนโยบายเศรษฐกิจของไทยเอง SCB EIC จึงยังคงมุมมองว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าเหลือ 2%
ค่าเงินบาท
เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นเร็ว จากความกังวลทางการเมืองที่ลดลงหลังแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่ได้เร็ว ดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่า และราคาทองคำสูงขึ้น ในระยะต่อไปเงินบาทอาจอ่อนค่าได้ในช่วงสั้น ก่อนจะกลับสู่เทรนด์แข็งค่าตาม Easing cycle ของนโยบายการเงินสหรัฐ โดยมองกรอบเงินบาท ณ สิ้นปีนี้อยู่ในช่วง 34.00-34.50 บาทต่อดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- SCB EIC คาด กนง. จะเริ่มลดดอกเบี้ยในไตรมาส 4 เหลือ 2.25%
- SCB EIC คาด ‘กนง.’ เริ่มลดดอกเบี้ยช่วงไตรมาส 4 ก่อนหั่นอีกรอบต้นปีหน้า!
- SCB EIC หั่นเป้าส่งออกไทยปีนี้เหลือ 2.6% แม้เดือน เม.ย. พลิกขยายตัวดี!
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg