นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เตรียมปรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 4.5% เป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 6 ปีนับตั้งแต่ปี 2555 จากปัจจุบันคาดขยายตัวที่ 4.2% หลังจากที่ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกโตถึง 4.8% มากกว่าที่ สศช.ประเมินไว้ที่ 4%
นอกจากนี้ สศช. จะปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้เฉลี่ยทั้งปีเพิ่มขึ้นเป็น 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปัจจุบันคาดการณ์ที่ 66.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และคาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงจากปัจจุบันที่ตั้งสมมติฐานไว้ที่ 31.5 บาทต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม สศค.คาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัวต่อเนื่อง คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 8% แน่นอน ทั้งนี้ได้รับอานิสงส์จากภาคการค้าและเศรษฐกิจการค้าต่างประเทศที่เติบโตได้ ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศตัวเลขการส่งออกเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขยายตัวได้ 12.3% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 14 เดือน
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตามในระยะต่อไป คือ การลงทุนของภาครัฐ จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ ขณะที่ปัจจัยทางการเมือง หรือ การเลือกตั้งที่ประกาศความชัดเจนนั้น มองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อนักลงทุนต่างชาติมากกว่าเป็นปัจจัยลบ สอดคล้องกับที่ล่าสุดบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ มูสดีย์ ยังคงจัดอันดับไทยอยู่ที่ BBB+ และยังมีความเห็นว่า การเมืองไม่ใช่ประเด็นที่น่าห่วงสำหรับนักลงทุนไทย