Economics

ไซโน โลจิสติกส์ คาดค่าระวางเรือครึ่งปีหลัง ขาขึ้นต่อเนื่อง เสี่ยงตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน

ไซโน โลจิสติกส์ ประเมินแนวโน้มค่าระวางเรือครึ่งปีหลัง เป็นขาขึ้นต่อเนื่อง เสี่ยงตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน คาดรับอานิสงส์ดันปริมาณขนส่งสินค้าปีนี้ได้ตามแผน 5.3 หมื่นตู้

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า แนวโน้มอัตราค่าระวางเรือในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ยังมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันดัชนีค่าระวางเรือ Shanghai Containerized Freight Index อยู่ที่ 3,733.80 จุด (5 ก.ค. 2567) เพิ่มขึ้น 262% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ไซโน โลจิสติกส์

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังคงไม่คลี่คลาย ทำให้การขนส่งสินค้าทางเรือต้องใช้ระยะเวลาเดินทางนานขึ้น เพื่อเลี่ยงเส้นทางทะเลแดง และท่าเรือขนส่งสินค้าที่มีความแออัดจากความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล เพิ่มแรงกดดันต่อความเสี่ยงการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์มากยิ่งขึ้น

ขณะที่ SINO ประเมินว่า ด้วยปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ให้ขยายตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก จากข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันของ SINO ที่เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก

นันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์
นันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์

ปัจจุบัน SINO มีปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลบนเส้นทางไทย-สหรัฐ เป็นอันดับ 1 ของไทย และเป็นอันดับ 3 ของโลก จากการมีสัญญา OTI ซึ่งสามารถทำสัญญาการบริการกับสายเดินเรือได้ด้วยตนเอง จึงสามารถให้บริการขนส่งสินค้าตั้งแต่ต้นทางไปยังจุดหมายปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ และเก็บเกี่ยวรายได้จากโอกาสที่อัตราค่าระวางเรือยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยผลักดันอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้ดียิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายตลาดทั้งในไทยและภูมิภาคอาเซียน ผ่านกลยุทธ์ร่วมทุน (Joint Venture) กับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเล ให้แก่กลุ่มประเทศในอาเซียนที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ

sino

ที่ผ่านมา ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศมาเลเซียเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มในไตรมาส 3/2567 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ เพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่จะสามารถเพิ่มศักยภาพและโอกาสเติบโตของธุรกิจ

ในเบื้องต้นยังคงมุ่งเป้าในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศในแถบนี้มีฐานการผลิตและการส่งออกไปยังสหรัฐค่อนข้างสูง จึงเป็นโอกาสของ SINO ที่จะให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแก่ลูกค้าในประเทศดังกล่าวเพิ่มเติมในอนาคต

เรามั่นใจว่าครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าในช่วงครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะสามารถผลักดันปริมาณขนส่งสินค้าในปีนี้ให้เพิ่มขึ้นเป็น 5.3 หมื่นตู้ได้ตามแผน และเก็บเกี่ยวโอกาสที่ดีในช่วงที่ค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตและมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดียิ่งขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo