ปลัดแรงงาน สรุปยอดเงินเยียวยา 17 แรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวจากอิสราเอล รายละ 215,000 บาท
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่แรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย จำนวน 17 ราย ได้เดินทางจากอิสราเอล กลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
ในส่วนการช่วยเหลือของกระทรวงแรงงาน ตนได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดและหน่วยงานในกำกับ ลงพื้นที่ไปยังบ้านของแรงงานไทยเพื่อดูแลเรื่องเอกสารเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเอกสารทั้งหมดของแรงงานไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยอำนวยความสะดวกในการแปลและเรียบเรียงเอกสาร เพื่อให้แรงงานไทยได้รับสิทธิประโยชน์ได้อย่างรวดเร็วที่สุด
สรุปยอดเงินเยียวยา 17 แรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัว
ในส่วนของเงินช่วยเหลือทั้งหมดที่แรงงานไทย 17 ราย ได้รับทันทีที่เดินทางถึงประเทศไทย มีจำนวน 125,000 บาท ประกอบด้วย
- เงินจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ จะได้รับเงินสงเคราะห์กรณีภัยสงคราม รายละ 15,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบ แรงงานไทยทั้ง 17 ราย พบว่า เป็นสมาชิกที่อยู่ในความคุ้มครองของกองทุนฯ จำนวน 14 ราย และสิ้นสุดความคุ้มครอง จำนวน 3 ราย
- เงินสด ซึ่งกระทรวงแรงงานได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือมาจากสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวในเบื้องต้นทุกราย รายละ 10,000 บาท
- เงินช่วยเหลือจากอิสราเอล ก้อนแรกจำนวน 10,000 เชคเกล หรือประมาณ 100,000 บาท ในรูปแบบบัตรเงินสด ที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก ซึ่งได้รับมาจากอิสราเอลเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ หากแรงงานไทยดังกล่าวประสบปัญหาด้านร่างกายหรือจิตใจ ยังจะได้รับเงินสงเคราะห์ จากกองทุนฯ รายละ 30,000 บาท โดยต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ (ใบรับรองแพทย์)
ในส่วนสิทธิประโยชน์จากอิสราเอลนั้น แรงงานไทยทุกรายที่ถูกจับกุมตัว จะได้รับเงินช่วยเหลือ ซึ่งนอกจากเงินก้อนแรกข้างต้นนั้น ในช่วง 6 เดือนแรก แรงงานไทยจะได้รับเงิน 6,900 เชคเกลต่อเดือน ซึ่งคิดเป็นเงินไทยประมาณเดือนละ 60,000 บาท
รวมถึง หากแรงงานไทยได้รับการประเมินจากแพทย์ ว่าได้รับผลกระทบด้านร่างกาย หรือจิตใจ สามารถนำใบรับรองแพทย์ไปยื่นกับสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล เพื่อประเมินขอรับเงินช่วยเหลือรายเดือนหลังจาก 6 เดือนได้ โดยแต่ละรายจะได้รับเงินไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการประเมินของสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล
สำหรับค่าชดเชยอื่นๆ ของสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล แรงงานไทยทั้ง 17 ราย ได้กรอกข้อมูลและยื่นคำร้องเรียบร้อยแล้ว โดยสำนักงานประกันสังคมอิสราเอล จะส่งให้สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
และในส่วนเงินค่าจ้างค้างจ่ายและเงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง (เงินปิซูอิม) นั้น ยังได้สั่งการให้ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เร่งตรวจสอบติดตามกับนายจ้างเพื่อดำเนินการ จ่ายค่าจ้างส่วนที่ยังค้างจ่าย เงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง (ปิซูอิม) แล้วเช่นกัน
“ตลอดระยะเวลาที่ทราบว่าคนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน พวกเราห่วงใยและ พยายามดำเนินการในทุกทางอย่างเต็มที่ และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีบทบาทสำคัญในการเจรจาทำให้แรงงานไทยได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย และขอให้ญาติของแรงงานมั่นใจได้ว่ารัฐบาลไทย กระทรวงแรงงาน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามอย่างเต็มที่ในการประสานทุกฝ่าย เพื่อเร่งช่วยเหลือแรงงานไทยที่เหลือให้ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อพบครอบครัวโดยเร็วที่สุด ” นายไพโรจน์ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนุทิน’ สั่งเร่งสำรวจ ช่วยเหลือ เยียวยา ผลกระทบแผ่นดินไหว เชียงราย-เชียงใหม่ แจ้งบ้านเรือนเสียหาย
- กรมคุ้มครองแรงงานฯ ห่วงสถานการณ์เลิกจ้างงาน เตือนนายจ้าง ไม่จ่ายค่าชดเชย ปรับสูงสุด 1 แสนบาท
- จ่ายแล้ว! สิทธิประโยชน์กองทุนฯ ‘แรงงานไทยจากอิสราเอล’ 95% รวมกว่า 128 ล้านบาท