Economics

BANPUแจงเหตุขาดทุนยันผลดำเนินงานยังแกร่ง

สมฤดี ชัยมงคล1

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/61 มีผลขาดทุนสุทธิ 1,262.88 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,434.62 ล้านบาท

เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายตามคำพิพากษาคดีหงสาคิดเป็น 86 ล้านเหรียญสหรัฐ และจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว 5% เทียบกับดอลลาร์ฯ จึงส่งผลให้บริษัทรับรู้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 33 ล้านเหรียญสหรัฐ

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/2561 ผลการดำเนินงานเติบโตตามเป้าหมาย มีรายได้จากการขายรวม 700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 22,079 ล้านบาท) และมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น 11 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 347 ล้านบาท) จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือ คิดเป็น 5%

ทั้งนี้ หากไม่นับรวมผลกระทบจากค่าใช้จ่ายตามคำพิพากษาคดีหงสาจำนวน 86 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,713 ล้านบาท) และการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ส่งผลให้บริษัทรับรู้ขาดทุนในทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 33 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,041 ล้านบาท) บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิจำนวน 79 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,492 ล้านบาท)

“ไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมีผลการดำเนินงานโดยรวมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย โดยธุรกิจถ่านหินยังมีรายได้ที่โดดเด่นต่อเนื่องจากราคาขายถ่านหินที่สูงขึ้น ธุรกิจไฟฟ้ามีการดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์อย่างมีเสถียรภาพและประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสร้างกระแสเงินสดที่ดี ธุรกิจก๊าซธรรมชาติสามารถรับรู้รายได้จากสินทรัพย์ครบทั้ง 6 แหล่ง” นางสมฤดี กล่าว

ขณะเดียวกัน กลุ่มบ้านปูฯ เน้นเดินหน้าธุรกิจด้วยการผนึกกำลังระหว่างกันในกลุ่มธุรกิจหลัก (Synergy) จากธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อบริหารทรัพยากรที่มีอยู่ในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทานและทักษะการทำงานของพนักงาน นับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขัน และลดต้นทุนการผลิต ทั้งนี้เพื่อสร้างผลกำไรและผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสีย อีกทั้งเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK