เตรียมหารือนายกฯ หลังชาวไร่อ้อย บุกทวง ‘ค่าอ้อยตัดสด-ลดเผา’ 120 บาทต่อตันล่าช้า

โดย NAPAPORN PANITCHART 10 กันยายน 2566

เตรียมหารือนายกฯ หลังเกษตรกรชาวไร่อ้อย บุกทวง “ค่าอ้อยตัดสด-ลดเผา” 120 บาทต่อตันล่าช้า จากช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนสมาคมเกษตรกรชาวไร่อ้อย 38 แห่งจากทั่วประเทศ เพื่อรับทราบแนวทางการแก้ปัญหาอ้อยและน้ำตาลทั้งระบบ

โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วนเรื่อง ความชัดเจนนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม หลังการเปลี่ยนรัฐบาล เกี่ยวกับเงินสนับสนุนการตัดอ้อยสด เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จำนวน 120 บาทต่อตัน และแนวทางการแก้ปัญหาภาวะภัยแล้งที่อาจส่งผลต่อการขาดแคลนน้ำตาล

ยังไม่ได้รับเงิบสนับสนุนการตัดอ้อยสด ลดปัญหา PM2.5

ทั้งนี้ เกษตรกรชาวไร่ อ้อยพร้อมจะช่วยลดปัญหา PM2.5 โดยเข้าร่วมพันธสัญญาตามนโยบายของภาครัฐในการตัดอ้อยสดที่มีต้นทุนสูง และรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจำนวน 120 บาทต่อตัน ซึ่งได้ดำเนินการมา 2 ปีแล้ว

กระทั่งมาถึงช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างรัฐบาลเดิมสู่รัฐบาลใหม่ ทำให้เงินสนับสนุนดังกล่าวถูกชะลอออกไป จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรชาว ไร่อ้อยทั้งประเทศ ที่ได้ลงทุนจ้างการตัดอ้อยสดไปแล้ว

เกษตรกรกชาวไร่ อ้อยยังมีความกังวล เนื่องจากจะถึงฤดูการหีบอ้อยใหม่ ประกอบกับภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่อาจจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อเกษตรกร เพราะเกษตรกรต้องเตรียมพร้อมรับมือ ต้องใช้เงินทุน เรื่องเครื่องจักร หรือแรงงาน จึงขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการเรื่องเงินสนับสนุน การช่วยเหลือการตัดอ้อยสดจำนวน 120 บาทต่อตันของฤดูกาลที่ผ่านมา ให้ถึงมือเกษตรกรภายในเดือนตุลาคม รวมทั้งขอความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการจ่ายเงินสนับสนุนในรอบปีใหม่ด้วย

ใช้งบ 8 พันล้าน เตรียมหารือนายกฯ

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ปัญหาเรื่องอ้อย เป็นปัญหาสำคัญที่ถูกพูดถึงมาโดยตลอดทั้งในรัฐบาลและในสภาผู้แทนราษฎร สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการจ่ายเงินล่าช้า เป็นเพราะติดช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล

โดยอยากชี้แจงว่าเงินสนับสนุน 120 บาทต่อตัน คือการลงทุนของรัฐ รัฐจึงอยากเห็นว่าการตัดอ้อยสดมากขึ้นจริง จนสามารถลดการเผาอ้อยลงได้ จึงอยากจะให้เกษตรกรสื่อสารออกมาว่าการที่รัฐสนับสนุนนั้น ทำให้ลดการเผาได้ตามเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งหากทำได้ก็เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการสนับสนุนต่อไป

โดยสำหรับเงินสนับสนุนของรอบปีที่ผ่านมานโยบาย จะต้องใช้งบประมาณราว 8,000 ล้านบาท ที่ต้องขอวงเงินจากรัฐบาลใหม่ โดยงบประมาณดังกล่าวไม่ผูกพันกับงบประมาณใหม่ ปี 2567 และได้หารือกับนายกฤษฎา จินะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแล้ว เพื่อหาแนวทางในการใช้กรอบวงเงิน ก่อนที่จะนำเข้าหารือ กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม.เร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม อาจจะยังไม่ทันเดือนตุลาคม เนื่องจากมีความล่าช้าของการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล แต่จะพยายามเร่งให้ มีการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะเข้าใจถึงความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยเป็นอย่างดี