Economics

จีพีเอสซีปิดดีลซื้อโกลว์ เร่งจัดทัพพนักงาน 1,100 คนรับโมเดลธุรกิจใหม่

ปิดดีลจีพีเอสซีซื้อโกลว์ เตรียมจัดโครงสร้างธุรกิจ-ผูู้บริหาร-พนักงานหลังควบรวม 1.100 คน สรุปไตรมาส 2 นี้ เดินหน้าสร้างการเติบโต บุกตลาดต่างประเทศ ประมูลไอพีพีรอบใหม่  

S 19824679
ชวลิต ทิพพาวนิช

นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ จีพีเอสซี กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดโครงสร้างองค์กร ภายหลังควบรวมกับบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ โกลว์ ทั้งโมเดลธุรกิจ ฝ่ายบริหาร และพนักงานทั้งหมด ซึ่งปัจจุบัน โกลว์ มีพนักงาน 800 คน จีพีเอสซี  300 คน

โดยยืนยันว่าการปลดพนักงานไม่ได้อยู่ในแผนของบริษัท ประกอบกับเรามีแผนขยายกิจการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโต รวมถึงการ เตรียมประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ หรือไอพีพี ทั้งฝั่งตะวันตก และตะวันออก ซึ่งบริษัทมีที่ดินเตรียมไว้แล้ว

สำหรับแผนงานในอนาคตจะเดินหน้าทั้งโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลัก และพลังงานหมุนเวียน โดยมี  โกลว์  เป็นเนื้อเดียวกับจีพีเอสซีเหมือนครอบครัวเดียวกัน แต่จะจัดองค์กรอย่างไรนั้นจะต้องศึกษา และเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทก่อน

ในส่วนความคืบหน้าในกระบวนการควบรวมนั้น หลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบให้ จีพีเอสซีรวมกับโกลว์  ภายใต้เงื่อนไขให้โกลว์จำหน่ายกิจการของบริษัท โกลว์ เอสพีพี 1 จำกัด ให้แล้วเสร็จ ซึ่งล่าสุดโกลว์ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา จีพีเอสซี จึงเข้าทำธุรกรรมซื้อหุ้นทั้งทางตรง และทางอ้อมในโกลว์ จาก ENGIE Global Developments B.V. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโกลว์ในสัดส่วน 69.11% โดยชำระค่าหุ้นในราคาหุ้นละ 91.9906 บาท มูลค่าประมาณ 93,000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกันจีพีเอสซีต้องเตรียมเงินอีก 40,000 ล้านบาท สำหรับขั้นตอนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของกิจการจากผู้ถือหุ้นรายย่อย (Tender Offer) สัดส่วนประมาณ 30.89% ของหุ้นทั้งหมดของโกลว์ ในราคาเดียวกันกับการซื้อขายหุ้นระหว่าง จีพีเอสซี  และ ENGIE Global Developments B.V. แต่ทั้งนี้ราคาดังกล่าว จะมีการปรับลดลง หากโกลว์ มีการกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้นในการได้รับเงินปันผล หรือสิทธิใดๆ ต่อผู้ถือหุ้น หากสามารถซื้อหุ้นจากโกลว์ได้รวมประมาณ 80% ขั้นตอนต่อไปต้องนำโกลว์ออกจากตลาดทรัพย์ฯ

ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มีนาคม 2562 นี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

และภายหลังการรวมกิจการจะส่งผลให้ จีพีเอสซี มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 2,771 เมกะวัตต์  จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิต  1,955  เมกะวัตต์  รวมกำลังการผลิตทั้งสิ้น 4,726 เมกะวัตต์ เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอันดับ 3 ของประเทศ ขณะเดียวกันระหว่างนี้จีพีเอสซีเองก็มีกำลังผลิตในมือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดซื้อหุ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 9 แห่งรวม 40 เมกะวัตต์ลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท รวมถึงกำลังผลิตใหม่ที่บริษัทเข้าไปถือหุ้น  จากโรงไฟฟ้าไซยะบุรี และน้ำลิก ในสปป.ลาว สัดส่วนกำลังผลิตตามการ ถือหุ้น 321 เมกะวัตต์ และ 26 เมกะวัตต์ตามลำดับ ทั้งหมดจะทำให้บริษัทมีกำลังผลิตกว่า 5,000 เมกะวัตต์

สำหรับการควบรวมกับโกลว์ ครั้งนี้ยืนยันว่า สร้างประโยชน์ต่อประเทศ เพราะเป็นการขายออกของนักลงทุนต่างชาติ คือ ENGIE Global Developments B.V. และจีพีเอสซี ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยเข้าไปซื้อหุ้นแทน กลายเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของไทยที่มีขีดความสามารถพร้อมเดินหน้าลงทุนทั้งในประเทศและภูมิภาค

“ จีพีเอสซี มีความพร้อมที่จะให้บริการและดูแลลูกค้าทุกรายด้วยการส่งมอบพลังงานที่มีเสถียรภาพ พร้อมกับการสร้างนวัตกรรมในธุรกิจไฟฟ้า จากการนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัท มาเสริมความแข็งแกร่งด้วยการผนึกศักยภาพผลิตไฟฟ้า(Operational Synergy) ทำให้เกิดการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขายและให้บริการ โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่จะมีการลงทุนมากขึ้นในระยะยาว ” นายชวลิตกล่าว

นางวนิดา บุญภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงิน และบัญชีองค์กร จีพีเอสซี กล่าวว่า เงินที่ต้องใช้ทั้งหมดสำหร้บการควบรวมกิจการคือ 130,000 ล้านบาท มาจากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) 28,000 ล้านบาท และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) 8,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินกู้

โดยการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ ชำระไปแล้ว 93,000 ล้านบาท เหลืออีก 40,000 ล้านบาทที่จะต้องซื้อจากผู้ถือหุ้นรายย่อยของโกลว์  โดยบริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ระยะยาว 74,000 ล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่เป็นเงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด สำหรับการจัดโครงสร้างองค์กร และทางธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 หลังเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้น

Avatar photo