Economics

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม ‘ธนาคารโลก’ ปรับเพิ่ม GDP ไทยปี 66 เป็น 3.9% จากเดิม 3.6% แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวดี

“บิ๊กตู่” ปลื้ม “ธนาคารโลก” ปรับเพิ่ม GDP ไทยปี 66 เป็น 3.9% จากเดิม 3.6% แนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวดี จากท่องเที่ยวฟื้นตัว

วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ธนาคารโลก (World Bank : WB) เปิดเผยรายงานตามติดเศรษฐกิจไทย (Thailand Economic Monitor) ประจำเดือนมิถุนายน 2566

ธนาคารโลก

ปรับขึ้นการคาดการณ์ GDP ปี 66

แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะแข็งแกร่งขึ้นในปี 2566 พร้อมปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปี 2566 เป็น 3.9% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.6% และเพิ่มจาก 2.6% ในปี 2565

โดยการประเมินแนวโน้นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นนี้ เกิดจากอุปสงค์ต่างประเทศที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยเฉพาะในจีน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ตลอดจนการเติบโตของการบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการทำงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องมาอย่างต่อเนื่อง ต้องขอบคุณความร่วมมือที่เกิดจากการทำงานของทุกฝ่าย ร่วมกันบูรณาการการทำงานจนเห็นเป็นผลสำเร็จ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในการกำหนดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลสูงสุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง จนเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการคาดการณ์ของธนาคารโลก

ธนาคารโลก

ท่องเที่ยวฟื้นตัว ดันเศรษฐกิจไตรมาสแรกปรับตัวดีขึ้น

ธนาคาsโลกยังระบุว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ฟื้นตัวขึ้นที่ 4.5% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศและการท่องเที่ยว โดยดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะกลับมาเกินดุลในปี 2566 ที่ 2.5% ของ GDP จากการค้าทั้งสินค้าและบริการ และภาวะตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว การค้า และการบริการ

รวมถึงการจ้างงานในภาคการค้าและการบริการยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยยอดสะสมนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมากกว่า 12.4 ล้านคน นำเงินเข้าไทยแล้วกว่า 5 แสนล้านบาท

ธนาคารโลก

คาดการณ์ปี 67-67 เศรษฐกิจยังขยายตัว แต่ก็มีความเสี่ยง

นายอนุชา กล่าวว่า รายงานยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปี 2567 และ 2568 จะขยายตัวที่ 3.6% และ 3.4% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยง เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกอ่อนแอกว่าที่คาด รวมถึงความท้าทายต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งประเทศไทยมีความเสี่ยงต่ออุทกภัยและภัยแล้งอย่างมาก

โดยธนาคาsโลกเห็นว่า ไทยมีความคืบหน้าในการรับมือกับปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ความท้าทายบางประการยังคงอยู่ ตั้งแต่มีการจัดตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) การประสานงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการอุทกภัยและภัยแล้งก็เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และ สทนช. ได้สนับสนุนการวางแผนมาตรการบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งมากขึ้นด้วย

นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่ทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจดีขึ้นจนเห็นเป็นรูปธรรม เป็นปัจจัยให้ธนาคารโลกปรับการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยดีขึ้น ซึ่งจากนโยบายเศรษฐกิจที่เดินมาอย่างถูกทางของรัฐบาล รวมถึงการพัฒนาศักยภาพการแข่งขัน โครงสร้าง การเชื่อมโยงของประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเห็นเป็นความสำเร็จที่จับต้องได้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า ความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันทำให้เห็นโอกาสและอนาคตที่สดใส และเชื่อว่าการพัฒนาของไทยจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo