Economics

ท่องเที่ยวไม่ได้มีแต่จีน พบ ‘มุสลิม’ สนใจไทยอันดับสอง

Muslim Travel

นอกจากนักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวชาวมุสลิมก็สนใจประเทศไทยไม่แพ้ใคร โดยตัวเลขนี้ยืนยันได้จากผลการสำรวจดัชนีการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมทั่วโลก (GMTI) ประจำปี 2561 ที่ระบุว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ของกลุ่มประเทศที่ไม่ไช่มุสลิม (Non-OIC) ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว

โดยผลสำรวจ The Mastercard-Crescent Rating Global Muslim Travel Index หรือ  GMTI 2561 มีประเทศที่เข้าร่วมในการสำรวจทั้งสิ้น 130 ประเทศ และประเทศที่เป็นมุสลิมที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางชาวมุสลิมมากที่สุดอันดับหนึ่งคือ “มาเลเซีย” ที่สำคัญ มาเลเซียได้รับตำแหน่งนี้ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 8 แล้ว รองจากมาเลเซียคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อินโดนีเซีย, ตุรกี, ซาอุดิอาระเบีย, กาตาร์, บาห์เรน, โอมาน, โมรอคโค และคูเวต ตามลำดับ

ส่วนประเทศไทยนั้น ในภาพรวมอยู่ในอันดับที่ 16 แต่ความน่าสนใจของประเทศไทยคือ เราเป็นประเทศอันดับสองของกลุ่มประเทศที่ไม่ไช่มุสลิม รองจากสิงคโปร์ และอีก 8 ประเทศที่ติด 1 ใน 10 ด้วยนั้น ประกอบด้วย สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง, อาฟริกาใต้, เยอรมัน, ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย

ผลการสำรวจตามดัชนีการท่องเที่ยวมุสลิมโลกในปีนี้คาดการณ์ว่าตลาดการท่องเที่ยวชาวมุสลิมยังคงมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนอยู่ที่ 6,900 ล้านล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2563 และขยับขึ้นไปถึงกว่า 9,500 ล้านล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2569

ในปี พ.ศ. 2560 พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมจำนวนประมาณ 131 ล้านคนเดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากจำนวน 121 ล้านคน ในปี พ.ศ. 2559 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 156 ล้านคนทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2563 หรือ 10% ของธุรกิจท่องเที่ยว สำหรับประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2560 มีนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมเดินทางมาเยือนถึง 3 ล้าน 6 แสนคน หรือเกือบ 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยในปีนั้น

นายฟาไซ บาฮาร์ดีน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท CrescentRating และ HaralTrip กล่าวว่า “ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลไทยอาทิ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ และการพัฒนามาตรฐาน QR Code ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ เดินทางมาท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น”

ด้านนายโดนัล ออง ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด กล่าว “ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 2 ของแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ประเทศมุสลิม (Non-OIC) จากนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของชาวมุสลิมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”

ประเทศจุดหมายปลายทางทั้ง 130 แห่ง จากผลการสำรวจ GMTI 2018 ได้รับการจัดอันดับโดยพิจารณาจากเกณฑ์วัด พร้อมด้วยตัวชี้วัดใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้ ซึ่งรวมทั้ง CrescentRating Growth-Innovation Model เกณฑ์ชี้วัดที่ใช้ในปีนี้ประกอบด้วย การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วยเรื่องของสาธารณูปโภค การสื่อสาร รวมถึงการที่แต่ละประเทศทำการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นจึงให้คะแนนเกณฑ์ตัดสินต่างๆ จนได้คะแนนโดยรวม

Add Friend

Avatar photo