เตือน 4 เขื่อนวิกฤติน้ำ “กฤษฏา” ถกด่วนผู้ว่าฯ 76 จังหวัดสู้วิกฤติภัยแล้งพรุ่งนี้ วิตกแล้งหนักนานกว่าปี 57-58 สภาพอากาศปีนี้เป็นภาวะเอลนีโญ
สำหรับปัญหาภัยแล้งปีนี้ได้เปิดปฏิบัติการฝนหลวงแล้ว พร้อมกับให้กรมฝนหลวงฯตั้งฐานฝนหลวงถึง 20 ชุด เพื่อปฏิบัติการได้ทั่วถึงทุกภูมิภาค และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เร่งชี้แจงเกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อย งดทำนาปรังต่อเนื่อง พร้อมกับกระทรวงมหาดไทย ช่วยทำความเข้าใจชาวนาด้วย ในปีนี้ข้าวราคาดี อาจไม่เว้นทำปรังรอบสอง เมื่อเกิดภัยพิบัติไม่ได้รับเงินชดเชย
“พรุ่งนี้(4 มี.ค.)จะประชุมติดตามสถานการณ์น้ำร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มภัยแล้ง ขณะนี้มีนักวิชาการคาดการณ์ว่าปีนี้จะเกิดภาวะช่วงภัยแล้งยาวนานกว่าปี 2557-2558 และสภาพอากาศปีนี้เป็นภาวะเอลนีโญ” นายกฤษฏา กล่าว
นายกฤษฏา กล่าวว่ากรมชลประทานยืนยันว่าปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดทั่วประเทศ มีน้ำใช้การได้ 24,095 ล้านลบ.ม. เพียงพอใช้ได้เดือนพฤษภาคม สามารถสำรองไว้ต้นฤดูฝนบางส่วน ก่อนหน้านี้ตนได้สั่งทุกพื้นที่รณรงค์เกษตรกรมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย สามารถจูงใจเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กว่า 9 แสนไร่ แต่เป็นห่วงนอกเขตชลประทาน จึงให้ทุกจังหวัดรวบรวมแหล่งน้ำ ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติและน้ำกักเก็บ มีใช้ได้ถึงเมื่อไหร่ เพียงพอหรือไม่ จะประชุมระบบทางไกลไปยังทุกจังหวัด ให้ประสานเป็นเครือข่าย จากในส่วนกลางลงไปในพื้นที่ ทำงานใกล้ชิดกับกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เร่งสำรวจน้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำทั้งหมด เทียบปริมาณการใช้ ดูแลเครื่องมือ
พร้อมกับให้หน่วยงานองค์กรส่วนท้องถิ่น(อปท.) เตรียมรถบรรทุกน้ำ สูบน้ำไปกระจายช่วยเหลือประชาชน สำหรับเขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำเหลือ 4-5 % โดยผู้ว่าราชการและกรมชลฯเตรียมมาตรการรองรับ ดึงน้ำในลำน้ำของไทย ก่อนไหลลงแม่น้ำโขง มาใช้
“ประเมินว่าทั่วประเทศมีน้ำใช้สำหรับอุปโภคบริโภค แต่สำหรับภาคเกษตร อุตสาหกรรม อาจมีผลกระทบ หากฤดูฝนมาช้าไป 1-2 เดือน ต้องมีมาตรการการใช้น้ำ ในการปล่อยน้ำเข้มข้นขึ้น เพราะขณะนี้พื้นที่ปลูกข้าวจากแผน 8 ล้านไร่ แต่ปลูกไปแล้วถึง 11 ล้านไร่”นายกฤษฏา กล่าว
ขณะที่เว็บไซต์สำนักงานสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(องค์กรมหาชน) หรือ สสนก. แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำเขื่อน มีน้ำน้อยวิกฤติ ประกอบด้วย
เขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำใช้การได้ 106 ล้าน ลบ.ม.หรือ 4%
เขื่อนสิริธร มีน้ำใช้การได้ 135 ล้าน ลบ.ม.หรือ 7%
เขื่อนกระเสียว มีน้ำใช้การ 27 ล้าน ลบ.ม. หรือ 9 %
เขื่อนทับเสลา มีน้ำใช้การ 23ล้าน ลบ.ม. หรือ 14%
ส่วนเขื่อนใหญ่ของลุ่มเจ้าพระยา เช่น เขื่อนภูมิพล มีน้ำใช้การได้ 3,915 ล้าน ลบ.ม. หรือ 29% , เขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำใช้การ 3,125 ล้าน ลบ.ม. หรือ 33% , เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีน้ำใช้การ 415 ล้านลบ.ม. หรือ 44% เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 354 ล้าน ลบ.ม. หรือ 37%