“กมลศักดิ์” ผอ.การท่าเรือคนใหม่ ลั่นสร้างรายได้เพิ่มปีละ 1,000 ล้านบาท พร้อมชงขึ้นค่าเช่าตลาดคลองเตยแค่ 19% ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน
นายสมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (บอร์ด กทท.) เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาจ้างเรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร เป็นผู้อำนวยการการท่าเรือฯ คนใหม่ วันนี้ (25 ก.พ.) ว่า ภารกิจของผู้อำนวยการการท่าเรือฯ คนใหม่ คือจะต้องรักษาอันดับการเป็นท่าเรือระดับโลกของไทยให้คงอยู่ในอันดับที่ 20 หรือดีขึ้น โดยไม่หล่นลงไปให้ได้
ปัจจุบันการท่าเรือฯ อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการทำงานสำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะโครงการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 ท่าเรือ F วงเงินลงทุนกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และยังจะนำไปสู่การเป็นท่าเรือระดับโลก
นอกจากนี้ ยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ (ท่าเรือคลองเตย) ในลักษณะเดียวกับท่าเรือปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยการใช้ที่ดินที่มีอยู่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ยังคงให้บริการด้านขนส่งทางเรือควบคู่ไปด้วย
เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทยคนใหม่ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เพราะการท่าเรือฯ เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของชาติ ต้องอาศัยความรับผิดชอบ ความมุ่งมั่น ประสบการณ์ และความชำนาญในการทำงาน
สิ่งแรกที่จะดำเนินการ คือ การสร้างความเป็นหนึ่งให้เกิดความร่วมมือร่วมใจจากพนักงานทุกคน เพราะผู้อำนวยการคนเดียวไม่สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้สำเร็จตามเป้าหมายได้ และจะเร่งรัดโครงการพัฒนาแหลมฉบังเฟส 3 ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะเดียวกันตั้งเป้าว่า การท่าเรือฯ ในยุคของตน จะมีบริษัทลูกบริหารสินทรัพย์และจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 1 พันล้านบาท รวมถึงจะเร่งดำเนินการเรื่องค่าเช่าอาคารพาณิชย์ในพื้นที่การท่าเรือฯ เช่น พื้นที่ตลาดคลองเตย จำนวน 1,860 ห้อง ซึ่งบอร์ดการท่าเรือฯ เคยมีมติเมื่อปี 2560 ให้ขึ้นค่าเช่าเพิ่มจากเดิม 300% ทำให้ผู้เช่าต่อต้าน เพราะรับไม่ได้ จึงชะลอการขึ้นค่าเช่ามาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
ดังนั้น ตนจะเสนอบอร์ดการท่าเรือฯ ให้พิจารณาทบทวนให้เก็บค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 19 % เท่านั้น เพื่อไม่ให้ผู้เช่าได้รับผลกระทบมาก เช่น มติบอร์ดเดิมให้ขึ้นค่าเช่าทำเลติดถนน จาก 6,020 บาทต่อห้องต่อเดือน เป็น 19,000 บาทต่อห้องต่อเดือน แต่จะเสนอใหม่เป็น 8,400 บาทต่อห้องต่อเดือน