Economics

อย่าตกใจ!! พาณิชย์เชื่อตัวเลขส่งออกจากนี้จะดีขึ้น

“พาณิชย์” ถกผู้ส่งออกสินค้าสำคัญรับมือสถานการณ์ส่งออกปีนี้ มั่นใจไตรมาส 2 – 3 จะปรับตัวดีขึ้น วอนดูแลค่าเงินบาท

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวภายหลังเชิญผู้ส่งออกกลุ่มสินค้าสำคัญ 10 ลำดับแรกของไทยเข้าร่วมหารือรับมือสถานการณ์การส่งออกที่ติดลบมากถึง 5.6% เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยเห็นว่าเป็นการลดลงตามฤดูกาลไม่อยากให้ทุกฝ่ายตกใจมากเกินไป เพราะข้อมูลย้อนหลัง 3 ปีการส่งออกไตรมาสแรกจะไม่ค่อยดีนัก แต่ทุกอย่างจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และ 3 เป็นหลัก

b2 17 3 60 800x577
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์

อย่างไรก็ตาม กรมฯ จะนำข้อเสนอของภาคเอกชนทุกกลุ่มไปปรับให้เข้ากับแผนส่งเสริมการส่งออกของกรมในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งการเจาะลึกลงไปในรายอุตสาหกรรม ทำให้ทราบจุดแข็ง – จุดอ่อนเป็นรายสินค้าสามารถจะกำหนดแผนกระตุ้นโดยเฉพาะเป็นรายสินค้าในการบุกแต่ละตลาดได้ เชื่อว่าจะได้ผลมากกว่าแผนเดิมที่ทำเป็นภาพรวม เช่น สิ่งทอ ต้องให้ความสำคัญกับวัตถุดิบใหม่ ๆ ขณะที่อัญมณีและเครื่องประดับ สามารถใช้การค้าออนไลน์เข้ามาช่วยรุกตลาดได้ ส่วนสินค้าเกษตรและกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาจต้องใช้มาตรการรัฐเข้ามาช่วยสนับสนุน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะนำไปหารือร่วมกับกระทรวงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว

“ตัวเลขส่งออกเดือนมกราคมจะติดลบ แต่ก็เป็นไปตามฤดูกาล ซึ่งคำสั่งซื้อมักชะลอช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ หลังจากนี้ก็จะดีขึ้น และหลายสินค้ายังไปได้ดี เช่น อาหาร สิ่งทอ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น จึงมั่นใจว่าภาพรวมการส่งออกทั้งปีจะยังเป็นบวก ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงยืนยันเป้าหมายส่งออก 8% ไว้ตามเดิม แม้ว่าจะไม่ง่าย แต่จะพยายามทำให้เต็มที่ เพื่อให้ตัวเลขการส่งออกไทยขยายตัวได้ดี” น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าว

สนั่น อังอุบลกุล

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า การส่งออกไทยปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้ 3 – 5% แม้เดือนแรกของปีจะติดลบ แต่เชื่อว่าหลังจากนี้จะดีขึ้น ซึ่งเมื่อปี 2561 เอกชนมองว่าส่งออกจะโต 5% ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าไว้ที่ 8% ท้ายที่สุดก็จบลงที่บวก 6.7% เชื่อว่าปี 2562 ถ้ารัฐกับเอกชนทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้นการส่งออกน่าจะไปได้ดีเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบหลายด้านที่น่าห่วง โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยน เพราะเงินบาทแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่น ๆ กระทบรายได้จากการส่งออกในภาพรวม ซึ่งคาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรน่าจะเติบโตได้เพียง 1.4% เท่านั้น ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมคาดว่าบวก 3%

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาสงครามการค้าและการพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานที่กดดันให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้น และเท่าที่ได้พูดคุยกับภาคเอกชนในแต่ละกลุ่มมั่นใจว่าปัญหาของสงครามการค้าสหรัฐกับจีนจะไม่กระทบต่อการค้าไทยมากนัก แต่จะเป็นการเสริมให้สินค้าไทยมีตลาดมากขึ้น แต่สิ่งที่กังวลอย่างมาก คือ ความผันผวนของค่าเงินบาทไทยที่อยากให้หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลไม่ควรให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไป

Avatar photo