นบข. เคาะ ‘โครงการประกันภัยข้าวนาปี’ วงเงิน 1.6 พันล้านบาท รวม 21.5 ล้านไร่
วานนี้ (20 มีนาคม 2566) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข.
โดยที่ประชุมได้เห็นชอบ ‘โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2566’ เฉพาะพื้นที่เอาประกันภัย การรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) จำนวน 21.5 ล้านไร่ วงเงิน 1,647,435,000 บาท
โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2566 ดังนี้
ผู้รับประกันภัย
บริษัทเอกชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2566 ตามกรมธรรม์
คุณสมบัติผู้เอาประกัน
เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกข้าวนาปี และปรับปรุงทะเบียนในปีการผลิต 2566
พื้นที่รับประกันภัย
จำนวน 22 ล้านไร่ แบ่งเป็น การรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) จำนวน 21.5 ล้านไร่ และการรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (Tier 2) ไม่เกิน 5 แสนไร่
อัตราค่าเบี้ยประกันภัย
การรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) แบ่งเป็น 4 อัตรา (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษี มูลค่าเพิ่ม) ดังนี้
- เกษตรกรลูกค้าสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปี ธ.ก.ส. 115 บาทต่อไร่ เท่ากันในทุกพื้นที่
- เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่นำร่อง 70 บาทต่อไร่
- เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง 199 บาทต่อไร่
- เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงสูง 218 บาทต่อไร่
การรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (Tier 2) แบ่งเป็น 3 อัตรา (เกษตรกรจ่ายเองพร้อมทั้งอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ดังนี้
- พื้นที่เสี่ยงต่ำ 27 บาทต่อไร่
- พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 60 บาทต่อไร่
- พื้นที่เสี่ยงสูง 110 บาทต่อไร่
วงเงินคุ้มครอง
วงเงินคุ้มครองภัยธรรมชาติทั้งหมด 7 ภัย ได้แก่
- น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก
- ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง
- ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น
- ภัยอากาศหนาว หรือน้ำค้างแข็ง
- ลูกเห็บ
- ไฟไหม้
- ช้างป่า
สำหรับการรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) มีวงเงินความคุ้มครอง 1,190 บาทต่อไร่ และการรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (Tier 2) มีวงเงินความคุ้มครอง 240 บาทต่อไร่ รวมวงเงินความคุ้มครอง Tier 1 และ Tier 2 จำนวน 1,430 บาทต่อไร่
วงเงินคุ้มครองภัยศัตรูพืชและโรคระบาด รวมวงเงินความคุ้มครอง Tier 1 และ Tier 2 จำนวน 715 บาทต่อไร่ แบ่งเป็น
- การรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) มีวงเงินความคุ้มครอง 595 บาทต่อไร่
- การรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (Tier 2) มีวงเงินความคุ้มครอง 120 บาทต่อไร่
การอุดหนุนเบี้ยประกันภัย
การอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยของ ธ.ก.ส.
ธ.ก.ส. อุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 46 บาทต่อไร่ สำหรับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีของ ธ.ก.ส. ที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2566 จำกัดพื้นที่สูงสุดไม่เกิน 30 ไร่ต่อราย
การอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยของรัฐบาล
รัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับการรับประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) ให้แก่ผู้เอาประกันภัย ดังนี้
- เกษตรกรลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. ค่าเบี้ยประกันภัยเท่ากันทุกพื้นที่ 115 บาทต่อไร่ (124.12 บาทต่อไร่ รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ธ.ก.ส. อุดหนุน 46 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุน 78.12 บาทต่อไร่ (รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่นำร่อง ค่าเบี้ยประกันภัย 70 บาทต่อไร่ (75.97 บาทต่อไร่ รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) เกษตรกรจ่าย 5 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุน 70.97 บาทต่อไร่ (รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง ค่าเบี้ยประกันภัย 199 บาทต่อไร่ (214 บาทต่อไร่ รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) เกษตรกรจ่าย 130 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุน 84 บาทต่อไร่ (รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงสูง ค่าเบี้ยประกันภัย 218 บาทต่อไร่ (234.33 บาทต่อไร่ รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) เกษตรกรจ่าย 149 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุน 85.33 บาทต่อไร่ (รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ทั้งนี้ คิดภาษีมูลค่าเพิ่มอัตรา 7% ของเบี้ยประกันภัยหลังจากรวมค่าอากรแสตมป์แล้ว และค่าเบี้ยประกันภัยทุก 250 บาท คิดค่าอากรแสตมป์ 1 บาท
ระยะเวลาการขายประกัน
กำหนดวันเริ่มจำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบโครงการฯ และกรมธรรม์ประกันภัยและอัตราเบี้ยประกันภัยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน คปภ. และกำหนดวันสิ้นสุดการขายกรมธรรม์ แตกต่างกันตามภาคภูมิศาสตร์ ดังนี้
- ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ จำนวน 58 จังหวัด กำหนดวันสิ้นสุดการขายกรมธรรม์ ไม่เกินวันที่ 31 พฤษภาคม 2566
- ภาคตะวันตก จำนวน 5 จังหวัด กำหนดวันสิ้นสุดการขายกรมธรรม์ไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2566
- ภาคใต้ จำนวน 14 จังหวัด กำหนดวันสิ้นสุดการขายกรมธรรม์ ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2566
การพิจารณาค่าสินไหมทดแทน
จ่ายตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และจ่ายเพิ่มเติมกรณีที่เสียหายจริงแต่ไม่อยู่ในเขตประสบภัยตามที่ราชการกำหนด โดยวิธีการประเมินรายแปลงที่เป็นพื้นที่แปลงปลูกเสียหายสิ้นเชิง โดยการแจ้งความเสียหายและแสดงหลักฐานการเสียหาย เกษตรกรต้องบันทึกข้อมูลผ่าน Application “มะลิซ้อน”
งบประมาณ
งบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการฯ สำหรับพื้นที่เอาประกันภัย Tier 1 จำนวน 21.5 ล้านไร่ จำนวนทั้งสิ้น 1,647,435,000 บาท โดยให้ ธ.ก.ส. ทดรองจ่ายเงินอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยแทนรัฐบาลและเบิกเงินชดเชยจากรัฐบาลตามจำนวนที่จ่ายจริงรวมกับต้นทุนเงินในอัตราต้นทุนทางการเงินของ ธ.ก.ส. ประจำไตรมาสบวก 1 ต่อปี (ปัจจุบันเท่ากับ 1.83%) ในปีงบประมาณถัดไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มาแล้ว ‘ประกันราคาข้าว’ งวดที่ 23 เช็กเลยส่วนต่างราคาข้าวแต่ละชนิด ก่อนรับชดเชย 22 มี.ค.นี้
- ได้เงินกันหรือยัง! ‘ประกันราคาข้าว’ งวดที่ 22 โอนแล้ววันนี้ ให้ชาวนา 7,052 ครัวเรือน
- ‘ประกันราคาข้าว’ งวดที่ 22 มาแล้ว! เช็กส่วนต่างราคาข้าวแต่ละชนิด ก่อนรับโอน 15 มี.ค.นี้