Economics

‘YLG’ เผย ทองคำย่อตัว! หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อพุ่งไม่แผ่ว

“YLG” เผยทองคำย่อตัว! เหตุนักลงทุนกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนมีนาคมอีก 0.50% ด้านราคาทองในประเทศทรงตัวเหนือ 29,500 บาทสวนทางทองโลกรับอานิสงส์บาทอ่อน

YLG เผยทองคำย่อตัวหลังนักลงทุนกังวลผลประชุมเฟดเดือนมีนาคม อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจปรับขึ้น 0.50% มากกว่าที่เคยคาด หลังเงินเฟ้อพุ่งไม่แผ่ว ส่งผลทองแกว่งตัวลงระยะสั้น ขณะเดียวกันทองคำในประเทศทรงตัวเหนือ 29,500 บาทต่อบาททองคำต่อเนื่องและมีลุ้นปรับตัวขึ้น เหตุได้อานิสงส์เงินบาทอ่อน ระยะสั้นมีลุ้นทองคำในประเทศแตะกรอบ 30,500-30,850 บาทต่อบาททองคำ แนะนำทยอยขายทำกำไรเพราะราคาทองโลกยังปรับฐาน เชื่อระยะยาวราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้น อานิสง์ความต้องการทองจากหลายอุตสาหกรรม พร้อมแนะนักลงทุนเทรดทองผ่านแอป YLG Gold investment ปิดความเสี่ยงค่าเงินผันผวนอย่างมีประสิทธิภาพ

YLG

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงนี้เริ่มมีสัญญาณปรับตัวลดลง ซึ่งมาจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วงเดือน มีนาคม 2565 ที่เริ่มให้น้ำหนักว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นเพียง 0.25%

ดังนั้น จึงส่งผลให้มีความกังวลว่าปีนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะปรับขึ้นไปถึงระดับ 5.5-5.75% เพิ่มจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันถึง 1% และในกรณีที่อัตราเงินเฟ้อยังเร่งตัวต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจะไปถึงจุดสูงสุดที่ 6% จากความกังวลดังกล่าวจึงส่งผลให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า และกดดันให้ทองคำราคาอ่อนลง

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในระยะกลางยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน หลังจากทองคำพุ่งแรงนับตั้งแต่ปลายปี 2565 จนถึงเดือนมีนาคมจนเข้าสู่ภาวะซื้อมากเกินไป เมื่อทิศทางเป็นเช่นนี้นักลงทุนจึงมีพฤติกรรมเทขายเมื่อเข้าใกล้แนวต้าน ทำให้ราคาทองคำผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ยากยิ่งขึ้นจนกว่าจะมีปัจจัยหนุนใหม่ ๆ เข้ามา

YLG

ทั้งนี้ ประเมินแนวต้านแรกที่ 1,847-1,852 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หากไม่ผ่านแนวต้านนี้ทองคำอาจจะมีสัญญาณซึมตัวลง ส่วนแนวรับมองที่ 1,800 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ แต่หากผ่าน 1,847-1,852 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ได้จะมีมุมมองเชิงลบลดลงต่อโดยมีต้านถัดไปที่ 1,880-1,870 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ขณะเดียวกันทองคำในประเทศไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับราคาทองคำในตลาดโลก เพราะได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ดังนั้นจังหวะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่านี้ทำให้ทิศทางทองในประเทศนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันยังทรงตัวรักษาระดับไว้ได้เหนือ 29,500 บาทต่อบาททองคำ ไม่ได้ปรับตัวลดลงเช่นราคาทองคำในตลาดโลก อีกทั้งยังมีโอกาสขยับขึ้น โดยมองแนวต้าน 30,500 –30,850 บาทต่อบาททองคำ แนวรับ 30,000-29,500 บาทต่อบาททองคำ

YLG

อย่างไรก็ตาม แนะนำแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำในประเทศขยับขึ้น เพราะราคาทองคำต่างประเทศยังเป็นทิศทางปรับตัวลง หากค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า ราคาทองคำในประเทศก็จะกลับไปเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับราคาทองคำในตลาดโลกจึงแนะนำว่าให้ขายทำกำไรออกไปก่อน

ทั้งนี้ การปรับตัวลงของราคาทองคำมองว่าเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะยังเป็นขาขึ้น โดยจากข้อมูลของสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา ( United States geological survey : USGS) พบว่าปริมาณการผลิตเหมืองทองคำทั่วโลกในปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 3,100 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีการผลิต 3,090 ตัน จะเห็นว่าปริมาณทองคำที่ผลิตได้เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ก็ไม่ได้ฉุดให้ราคาทองคำปรับลดลงแต่อย่างใด ราคายังทรงตัวในระดับ เพราะเป็นสินค้าที่มีความต้องการทั้งจากภาคอุตสาหกรรม ภาคการเงินการลงทุน รวมถึงการสวมใส่เพื่อความสวยงาม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK