Economics

‘สรรพสามิต’ โอด! ลดภาษีน้ำมันดีเซล ทำจัดเก็บรายได้พลาดเป้า

“อธิบดีกรมสรรพสามิต” เผยผลการจัดเก็บรายได้ช่วง 4 เดือนแรกของปีงบ 2566 ยังต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 10% หลังลดภาษีน้ำมันดีเซล ทำสูญเสียรายได้เดือนละกว่า 1 หมื่นล้านบาท

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดี กรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-ม.ค.66) ว่ายังต่ำกว่าเป้าหมายราว 10% จากเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ที่ 5.67 แสนล้านบาท สาเหตุหนึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล จึงทำให้สูญเสียรายได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ลดภาษีน้ำมันดีเซล

ลดภาษีน้ำมันดีเซลทำพลาดเป้า!

“ตั้งแต่ ต.ค.65 ถึง ม.ค.66 กรมฯ สูญเสียรายได้จากการลดภาษีน้ำมันไปแล้ว 4 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งภาษีน้ำมัน คิดเป็น 40% ของการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต” อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว

ส่วนภาพรวมการจัดเก็บรายได้จากภาษีอื่น ๆ นั้น สามารถทำได้เกินกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะภาษีรถยนต์ ที่ช่วงนี้การจำหน่ายรถยนต์กลับมาคึกคักมากขึ้น สามารถจัดเก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมายถึง 10% เช่นเดียวกับภาษีสุรา-เบียร์ ที่เก็บได้เกินเป้าหมาย 10% และภาษีเครื่องดื่ม ที่เก็บรายได้เกินกว่าเป้าหมาย 10% เช่นเดียวกัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ และการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ ด้วยการดึงระบบดิจิทัลเข้ามาเสริม

ลดภาษีน้ำมันดีเซล
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต

ลดภาษีแบตเตอรี่

สำหรับความคืบหน้ามาตรการด้านภาษีเพื่อสนับสนุนการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้านั้น นายเอกนิติ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ได้เห็นชอบหลักการเรียบร้อยแล้ว โดยจะให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 1% รวมทั้งให้วงเงินสนับสนุน 2.4 หมื่นล้านบาท สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ระดับเซลล์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า

อย่างไรก็ดี การลดภาษีแบตเตอรี่จาก 8% เหลือ 1% นี้ ยังไม่ครอบคลุมแบตเตอรี่ปกติที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน โดยในส่วนนี้ยังคงเสียภาษีอัตรา 8% อยู่ แต่กรมฯ ก็จะมีการพิจารณาและศึกษาแนวทางในการลดภาษีดังกล่าวควบคู่กับไปด้วย โดยอยู่บนเงื่อนไขเดียวกันคือ การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการรีไซเคิล โดยคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปพร้อมกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo