Economics

‘GC-การบินไทย’ ทำข้อตกลง ร่วมมือ ‘พัฒนายั่งยืน-พันธมิตรธุรกิจ’

“GC-การบินไทย” ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และพันธมิตรทางธุรกิจ จับมือสร้างการเติบโต ที่คำนึงถึงการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อโลกที่ดีขึ้นให้คนรุ่นต่อไป

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และ นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และพันธมิตรทางธุรกิจ ระหว่าง GC และ การบินไทย

GC

โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ GC และประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ การบินไทย เป็นประธานในพิธีลงนาม พร้อมด้วยนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร นายพรชัย ฐีระเวช ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ การบินไทย พร้อมด้วย คณะกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงของ GC และ การบินไทย ร่วมเป็นเกียรติ และสักขีพยานในพิธี ณ สำนักงานใหญ่ การบินไทย

ความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโอกาสในการการดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยยึดหลักความยั่งยืน สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้น เป็นการผสานความแข็งแกร่งของ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต เข้ากับ การบินไทย สายการบินคุณภาพสูงที่ให้บริการเต็มรูปแบบ โดดเด่นด้านการบริการเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

GC

ทั้งนี้ GC มีนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่นำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังเป็นองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืนในระดับสากล ส่วน การบินไทย มีเส้นทางบิน และฐานลูกค้าทั่วโลก ที่ให้บริการขนส่งผู้โดยสาร สินค้า และไปรษณีย์ภัณฑ์ทางอากาศอย่างครบวงจร ทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ

อีกทั้ง การบินไทยยังมีหน่วยธุรกิจอื่น ซึ่งเป็นกิจการที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการขนส่งทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็น บริการคลังสินค้า บริการลูกค้าภาคพื้น บริการอุปกรณ์ภาคพื้น ครัวการบิน และบริการซ่อมบำรุงอากาศยาน

​ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง GC และ การบินไทย เกิดจากจุดร่วมของทั้ง 2 บริษัท ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตระหนักถึงความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้มีแนวโน้มการใช้ผลิตภัณฑ์ และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายขององค์กรในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GC มี Sustainable Aviation Fuel (SAF) หรือ เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การบินไทย สามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้

ความร่วมมือนี้จะเพิ่มศักยภาพ สร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของทั้ง GC และ การบินไทยให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน โดยหวังว่าการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ จะนำไปสู่การขยายผลต่อยอด ผสานความร่วมมือในมิติต่างๆ เพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต

GC

ขณะที่ ดร. คงกระพัน ระบุว่า การผสานร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการนำศักยภาพ ของทั้ง GC และ การบินไทย มาร่วมมือกัน โดยการบินไทย เป็นสายการบินแห่งชาติ มีจุดแข็งทางด้านทรัพยากรบุคคล การให้บริการในระดับสากล ส่วน GC ดำเนินธุรกิจเคมีภัณฑ์ มีฐานการผลิตทั่วโลก มีจุดแข็งด้านความยั่งยืน ที่มุ่งดำเนินธุรกิจบนหลักสมดุล ESG ระหว่างสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาลมาอย่างต่อเนื่อง

ความร่วมมือครั้งนี้ครอบคลุมหลายด้าน ได้แก่

1. พัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน โดยใช้ประสบการณ์ของ GC เพื่อช่วยยกระดับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของการบินไทย

2. เศรษฐกิจหมุนเวียน โดย GC มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ พลาสติกชีวภาพ ผลิตภัณฑ์รีไซเคิล สินค้า Upcycling ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในกิจการของการบินไทย รวมไปถึงการนำระบบการจัดการพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจร หรือ YOUเทิร์น Platform เข้ามาใช้

3. พัฒนาการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน หรือ SAF เป็นน้ำมันไบโอเกรดพรีเมี่ยมมีกำมะถันต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากฐานการผลิตของ GC

4. เป็นพันธมิตรด้านการบริการ และการเดินทาง

โดยความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอดธุรกิจร่วมกัน และพร้อมต่อยอดขยายผลสู่ความร่วมมือด้านอื่นๆ ในอนาคต

GC

ส่วน​นายชาย กล่าวว่า การบินไทย ในฐานะสายการบินแห่งชาติ มีความยินดีที่จะได้ร่วมกับ GC เพื่อศึกษา และพัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืนในทุกมิติ อาทิ การ Upcycling ขยะพลาสติก เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อบริการในเที่ยวบิน ผ่านโครงการ YOUเทิร์น ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการขยะพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจร การใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ รวมถึงนำสินค้าชุมชนที่อยู่ในการสนับสนุนของ GC มาใช้เพื่อส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือด้านการพาณิชย์ แบบ Preferred Partner ด้านบัตรโดยสาร รวมทั้งบริการอื่น ๆ ในการเดินทาง และ THAI Catering มีการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ผ่านโครงการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม สำหรับควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และโครงการศึกษาพัฒนาการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของการบินไทยในอนาคต

​ด้วยการผนึกกำลังของสองบริษัทในการสร้างความร่วมมือด้านธุรกิจและการพัฒนาในฐานะพันธมิตรที่มีความพร้อม และความมุ่งมั่น นับเป็นโอกาสอันดี ที่จะร่วมกันต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo