Economics

โค้งสุดท้าย ‘ช้อปดีมีคืน’ เหลืออีก 10 วัน อย่าลืมขอใบกำกับภาษี ลดหย่อนภาษีสูงสุด 4 หมื่นบาท

โค้งสุดท้าย ‘ช้อปดีมีคืน’ เหลืออีก 10 วัน อย่าลืมขอใบกำกับภาษี ลดหย่อนภาษีสูงสุด 40,000 บาท สิ้นสุด 15 ก.พ.นี้

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่รัฐบาลดำเนินโครงการช้อปดีมีคืน โดยมีระยะเวลาให้ประชาชนที่จะใช้สิทธิ นำยอดการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการไปลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับปีภาษี 2566

ช้อปดีมีคืน

อย่าลืมขอใบกำลังภาษีเต็มรูปแบบ

สามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -15 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งขณะนี้โครงการดำเนินมาถึงโค้งสุดท้ายเหลือเวลาอีก 10 วันสุดท้าย

ทั้งนี้ จึงขอย้ำเตือนผู้มีเงินได้ ที่ประสงค์จะร่วมโครงการหากมีการใช้จ่ายในช่วงนี้จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ อย่าลืมขอใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบกระดาษ หรือ ใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) จากผู้ขาย

จากนั้นก็เก็บใบกำกับภาษีจากการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดำเนินโครงการนี้ ไปประกอบการหักลดหย่อนภาษีในช่วงยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ประจำปี 2566 ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2567

ช้อปดีมีคืน

คาดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 5.6 หมื่นล้านบาท

สำหรับวันที่ 1 มกราคม -15 กุมภาพันธ์ 2566 ไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่ายอดการใช้จ่าย 30,000 บาทแรกนั้น สามารถใช้ได้ทั้งใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบกระดาษ และใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ e-Tax Invoice & e-Receipt แต่อีก 10,000 บาท จะต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการ ที่ออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ e-Tax Invoice & e-Receipt เท่านั้น

สำหรับสินค้าและบริการที่ผู้มีเงินได้เลือกซื้อและใช้บริการนั้นมีหลากหลาย ซึ่งรวมถึงการเติมน้ำมันรถยนต์และจักรยานยนต์  แต่ต้องเป็นการซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขายหรือผู้ให้บริกา รที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพกรเท่านั้น

ช้อปดีมีคืน

ขณะเดียวกันก็มีสินค้าและบริการบางประเภทที่ไม่สามารถนำมาร่วมโครงการได้ อาทิ ค่าสุรา, ยาสูบ, ค่าซื้อรถยนต์ จักรยานยนต์ เรือ, ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสาร,ค่าบริการจัดนำเที่ยว,ค่าที่พักในโรงแรม, ค่าสาธารณูปโภค ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย เป็นต้น

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ภายใต้โครงการช้อปดีมีคืนรัฐบาลคาดว่าจะเกิดการใช้จ่ายและมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 56,000 ล้านบาท สนับสนุนให้จีดีพีเพิ่มขึ้นจากการใช้จ่าย 0.16% และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่มเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นการสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo