Economics

‘สกนช.’ แจงผลดำเนินงาน ‘กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง’ ปี 65 ติดลบกว่า 1.3 แสนล้าน เร่งกู้เงินเสริมสภาพคล่อง

สกนช. แจงผลดำเนินงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2565 กลไกหลักพยุงราคาดีเซล- LPG  พบขาดทุนกว่า 1.3 แสนล้านบาท เหตุพยุงราคาพลังงานในประเทศ เตรียมเร่งกู้เงินเสริมสภาพคล่องต่อเนื่อง ในปี 2566 

วันนี้ (4 ม.ค.) นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานจาการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2565 และทิศทางปี 2566 ว่า ในภาพรวมจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเหตุการณ์สู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 จนเป็นวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งกินระยะเวลานานถึงปัจจุบัน

กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระทบต่อภาวะการครองชีพของประชาชน รวมทั้งกระทบต่อการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม โดยเฉลี่ยราคาน้ำมันดีเซล (Gas Oil) ปี 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 135.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 74.26%

กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้เข้ามาสนับสนุน การขับเคลื่อนมาตราการเร่งด่วน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน และผู้ประกอบการ เช่น การทยอยปรับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) แบบขั้นบันได จากที่ตรึงไว้ 318 บาทต่อถัง 15 กก. มาอยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กก. และการบริหารราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม จากที่ตรึงไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตรในปัจจุบัน

ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2565 มีสถานะติดลบมากกว่า 130,000 ล้านบาท ขาดสภาพคล่อง และมีหนี้เงินชดเชย ที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงค้างชำระผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงกรอบวงเงิน และกรอบวงเงินกู้ตามวรรคสามในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงการคลัง ผ่านกลไกอนุกรรมการฯ ภายใต้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อจัดหาแนวทางการกู้ยืมเงิน และคณะรัฐมนตรีได้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 มีผลใช้บังคับแล้ว

สกนช.ได้ดำเนินการกู้เงินรอบแรก 30,000 ล้านบาท ลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้วกับธนาคารกรุงไทย และธนาคาออมสิน ส่งผลให้สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบลดลง ปัจจุบันประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วันที่ 1 มกราคม 2566 ติดลบอยู่ที่ 121,491 ล้านบาท

แม้ในช่วงปลายพฤศจิกายน-ธันวาคม 2565 ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มอ่อนตัวลง ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เริ่มเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทำให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น แต่สถานการณ์ในตลาดโลกยังคงผันผวน ด้วยภาวะสงคราม และการถดถอยของเศรษฐกิจ ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไป

กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
วิศักดิ์ วัฒนศัพท์

นอกจากนี้ ในปี 2565 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังได้ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพออกไปอีก 2 ปี จนถึงวันที่ 24 กันยายน 2567 เนื่องจากยังมีความจำเป็นต้องจ่ายเงินชดเชยดังกล่าวต่อไป เพื่อเป็นกลไกรักษาระดับค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ อีกทั้งเป็นการช่วยเกษตรกรให้มีรายได้จากการขายพืชผลทางการเกษตร

สำหรับในปี 2566 สิ่งที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องดำเนินการในประเด็นหลัก คือ บริหารจัดการสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ให้สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันฯ คือการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ยังมีความผันผวนจากการสู้รบในยูเครน และด้านเศรษฐกิจ

แผนการกู้เงินต่อจากนี้ จะประสานกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อบรรจุการกู้ยืมเงินต่อไป ทั้งจะทบทวนแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้สอดคล้องกับภาวการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการดำเนินการเชื่อมโยงระบบ เพื่อพัฒนาในการรับจ่ายเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo