Economics

‘คมนาคม’ เตรียมพร้อมรับ ‘จีนเปิดประเทศ’ คาดปีนี้เที่ยวไทย 7-10 ล้านคน

“ศักดิ์สยาม” ตรวจความพร้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และความพร้อมรับนักท่องเที่ยวจากจีน ที่จะเดินทางเข้ามาหลังจีนเปิดประเทศเดือนมกราคมนี้ พร้อมประเมินตลอดทั้งปีหน้ายอดเดินทางสูง 7 – 10 ล้านคน

วันนี้ (28 ธ.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และเตรียมความพร้อมกรณีจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

จีนเปิดประเทศ

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ภายหลังจากที่ไทยเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางทางอากาศของประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการท่าอากาศยานให้มีความสะดวกและรวดเร็ว

ที่ผ่านมากระทรวงได้เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งความล่าช้าของขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระอย่างเร่งด่วน

จากการดำเนินการพบว่า ขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น ท่าอากาศยานมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสาร ที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางทั้งขาเข้า และขาออก เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 4 นาที (นับตั้งแต่ผู้โดยสารเดินเข้าสู่พื้นที่รอคอยจนถึงการลงตรา

จีนเปิดประเทศ

สำหรับช่วงเวลาคับคั่งที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก ผู้โดยสารจะใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ยคนละ 15 นาที รวมทั้งจัดระเบียบคิวผู้โดยสารที่รอรับบริการ

ในส่วนของการให้บริการกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร ได้ตรวจสอบระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระให้มีความพร้อมในการรองรับปริมาณสัมภาระ พร้อมทั้งกำชับผู้ให้บริการภาคพื้นที่ให้บริการขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสารทั้ง 2 ราย คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด ในการดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ตรงตามเวลาที่กำหนด

ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบิน จนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที โดยระยะเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระในแต่ละเที่ยวบิน ขึ้นอยู่กับระยะทางของหลุมจอดอากาศยานกับจุดขนถ่ายสัมภาระ

ที่ผ่านมาพบว่า ปัญหาความล่าช้าของกระเป๋าสัมภาระ ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเที่ยวบินล่าช้า (Flight Delay) รวมทั้งการขาดบุคลากร และอุปกรณ์ในการให้บริการภาคพื้น เนื่องจากช่วงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ประกอบการประสบปัญหาการขาดแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ให้บริการภาคพื้น เร่งจัดสรรกำลังคนมาบริหารจัดการสัมภาระผู้โดยสารเป็นอันดับแรก

จีนเปิดประเทศ

โดยต้องมีบุคลากรให้เพียงพอ และสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรับกระเป๋าสัมภาระ ทั้งในเที่ยวบินปกติ และกรณีที่มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น

สำหรับปัญหาการรอคิวใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะนานที่ผ่านมา ปัจจุบัน ทาภ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเพิ่มเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและเปิดช่องทางแท็กซี่เพิ่มเพื่อให้รถแท็กซี่สามารถเข้ามารับผู้ใช้บริการได้เร็วขึ้น รวมทั้งขยายขยายพื้นที่รอคอยกดตั๋วแท็กซี่ และกำหนดจุดยืนรอคิวรับบริการแท็กซี่ เพื่อความเป็นระเบียบและลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถลดระยะเวลาการรอคิว เหลือเพียงประมาณ 10 นาทีต่อคน

ช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565-4 มกราคม 2566 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณกว่า 2 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 300,000 คน เพิ่มขึ้น 170% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2565 และเพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปีที่ผ่านมา

ส่วนเที่ยวบินรวมมีกว่า 12,000 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละกว่า 1,700 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2565 และเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับสงกรานต์ โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าเที่ยวบินช่วงปีใหม่เติบโตกว่า 140% และผู้โดยสารเติบโต 260% จากปีใหม่ปีที่แล้ว

ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ตคาดว่า มีเที่ยวบินช่วงปีใหม่เติบโต 90% และ 80% ส่วนผู้โดยสารคาดว่าเติบโต 130% และ 170% ตามลำดับ

จีนเปิดประเทศ

ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ Single Command Center เพื่อบริหารจัดการเรื่องความแออัดของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่านกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงเวลา Peak Hour เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนกรณีที่จีนจะยกเลิกข้อกำหนดการกักกันสำหรับผู้โดยสารทุกคน ที่เดินทางมาจากนอกพรมแดนของประเทศ เตรียมเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 นั้น ทอท. คาดว่าตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่ จะเริ่มมีสายการบินทยอยแจ้งขอกลับมาทำการบินอีกครั้ง โดยเป็นการแจ้งล่วงหน้าก่อนวันหยุดปีใหม่ เพื่อเตรียมเที่ยวบินให้พร้อมช่วงต้นเดือนมกราคม 2566 ที่จีนจะเปิดประเทศ

เบื้องต้นจะเป็นการกลับมาทำการบินที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ตก่อน รวมทั้งเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ที่จะเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงกลางเดือน ถึงปลายเดือนมกราคม 2566 เช่นกัน ซึ่งคาดการณ์ในช่วงเดือนปีใหม่ ต่อเนื่องตลอดมกราคม 2566 ผู้โดยสารจะเดินทางเฉลี่ยวันละประมาณ 310,000-340,000 คน จากปัจจุบันเดือนธันวาคม 2565 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 275,000 คน และเป็นผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฉลี่ยวันละประมาณ 140,000-170,000 คน จากปัจจุบัน ธันวาคม 2565 มีผู้เดินทางเฉลี่ยวันละ 133,000 คน

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณ 7-10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด มีจำนวน 20.5 ล้านคน

จีนเปิดประเทศ

อย่างไรก็ตาม การที่เที่ยวบินจากจีนกลับเข้ามาทำการบินที่ประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ได้กำชับให้ท่าอากาศยานต้องเตรียมการเรื่องการให้บริการของผู้ประกอบการภาคพื้นให้พร้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความล่าช้า หรือความไม่พร้อมในการให้บริการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนในทุกด้าน

สำหรับมาตรการในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนนั้น กระทรวงคมนาคมเตรียมหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อกำหนดมาตรการทางสาธารณสุขในการรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo