บอร์ด สปสช.เพิ่ม ‘ยา-วัคซีน-เวชภัณฑ์-ตรวจ-รักษาโควิด’ เข้าสิทธิบัตรทอง รองรับเข้าสู่ ‘โรคประจำถิ่น’
ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบการเตรียมความพร้อมด้านยารักษาโควิด-19
โดยให้ยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุดตรวจห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจคัดกรอง ตรวจยืนยัน และการดูแลรักษา ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ตามแนวทางเวชปฏิบัติฯ ของกรมการแพทย์ และกระทรวงสาธารณสุข ให้ทุกรายการเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามเกณฑ์การพิจารณาแบบ Green channel เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น
เดือนก.ย.จ่ายค่าบริการโควิด 25.9 ล้านบาท ให้หน่วบริการนอกสังกัด
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คาดการณ์เป้าหมาย อัตราจ่าย และภาระงบประมาณ พบว่า งบประมาณที่ต้องใช้เป็นค่าบริการสำหรับโรคโควิด-19 รวมทั้งค่ายาสำหรับหน่วยบริการนอกสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 1-30 กันยายน 2565 จำนวนประมาณ 25.966 ล้านบาทนั้น ประกอบด้วย การจ่ายค่ายากรณีผู้ป่วยนอก 7.2 ล้านบาท และจ่ายค่าบริการและค่ายาผู้ป่วยใน 18.766 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ราคาค่ายาที่ใช้ในการคำนวณเป็นราคาเบื้องต้น และอาจมีการปรับเปลี่ยนภายหลังได้อัตราราคายาจากสภาเภสัชกรรมแล้ว
งบประมาณที่ใช้จะมาจากงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2565 สำหรับค่าบริการผู้ป่วยในทั่วไป ที่เกินกว่าอัตราจ่ายเบื้องต้น เปลี่ยนมาจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับโรคโควิด-19 และค่าบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง
สำหรับแนวทางการจ่ายค่ายาต้านไวรัสรักษาโรคโควิด-19 จะเป็นไปตามข้อบ่งชี้การใช้ยาที่กรมการแพทย์กำหนด โดยจ่ายชดเชยเป็นเงิน (On top) ซึ่งจะกำหนดรายการยาเป็น Fee schedule หรือการจ่ายตามแต่ละประเภทบริการ
ได้แก่ กรณีผู้ป่วยนอก จ่ายชดเชยค่ายา 4 รายการ ประกอบด้วย ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) แพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) เรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) กรณีผู้ป่วยใน จะจ่ายชดเชยเฉพาะรายการยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความจำเป็นสำหรับผู้ป่วยบางราย
1 ต.ค.จ่ายตามสิทธิปกติ
การกำหนดการจ่ายแบบ on top สำหรับการใช้บริการสาธารณสุขโรคโควิด-19 มีแผนสิ้นสุดการจ่ายในปีงบประมาณ 2565 โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป จะเป็นการจ่ายชดเชยตามสิทธิประโยชน์ในระบบปกติของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อเป็นไปตามมาตรการเข้าสู่โรคประจำถิ่น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สธ. ปรับแผน ‘ฉีดเข็มกระตุ้น’ เข็มละ 6 เดือน-1 ปี เตรียมสรุปวางแผน ‘จัดซื้อวัคซีน’ ปีหน้า
- สาธิต ย้ำ ใช้ ‘พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ’ แทนได้ไม่ห่วง ยันมีแผนรับมือ หากโควิดระบาด
- สมช.แจงชัด! หากโควิดระบาดหนักอีกรอบ ‘ผู้ว่าฯ’ ใช้อำนาจจัดการได้