“อนุทิน” นำทัพ “คมนาคม” บิน “สิงคโปร์” ร่วมประชุมสุดยอดการบินชางงี หนุนฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินอาเซียน หลังโควิดซบ ย้ำต้องปลอดภัยต่อสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านการบินชางงี ประจำปี 2565 พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และร่วมอภิปรายในหัวข้อ “Clearer and Greener Skies Ahead” ว่า ได้หารือร่วมกับผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิกอาเซียน และผู้บริหารองค์กรระหว่างประเทศด้านการบิน ในประเด็นสำคัญด้านการบิน
อาทิ การฟื้นฟูภาคการบินภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการพัฒนาภาคการบินที่ยั่งยืนและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม โดยสอดคล้องกับมาตรฐานด้านการบินระหว่างประเทศขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization – ICAO)
นอกจากนี้ ยังได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการดำเนินการของประเทศไทย ในประเด็นที่ประชาคมโลกให้ความสนใจ อาทิ การดำเนินมาตรการเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ รวมทั้ง สนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนสำหรับภาคการบิน และ ความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ
นายอนุทิน ระบุว่า ไทยยังได้ร่วมกับรัฐมนตรีขนส่งของอาเซียน สนับสนุน และผลักดันให้กระทรวงคมนาคม ในกลุ่มประเทศอาเซียน ร่วมจัดทำมาตรฐานตรวจสอบเอกสารการเดินทาง โดยเฉพาะใบรับรองการฉีดวัคซีน เพื่อเดินทางระหว่างประเทศ ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยฟื้นฟูภาคการบินจากการแพร่ระบาดโรคโควิด ในอาเซียนให้เข้มแข็ง และยั่งยืนต่อไป
ก่อนหน้านั้น นายเอส. อิสวารัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า การที่จะฟื้นฟูภาคการบิน ต้องประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก คือ
1. การพัฒนาศักยภาพ รองรับความต้องการในการขนส่งทางอากาศ และการฟื้นฟูภาคการบิน ให้คืนสู่สถานการณ์ก่อนการแพร่ระบาดของโรค ทั้งจะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเช่นเดียวกันนี้อีกในอนาคต
2. การพัฒนาประสิทธิภาพของภาคการบิน จะต้องมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขนส่งทางอากาศ
3. ต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยร่วมดำเนินการตามแผนการชดเชย และลดก๊าซเรือนกระจกในภาคการบิน (CORSIA) ซึ่งสิงคโปร์ได้จัดทำแผนแม่บทสำหรับหน่วยงานจากภาคส่วนต่าง ๆ ใช้ดำเนินการร่วมกัน ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ส่วนนายแซลวาทอร์ ไซแอคชิตาโน ประธานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ย้ำว่า การฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินภายหลังการแพร่ระบาดโควิดนั้น ทุกส่วนจะต้องสร้างความยืดหยุ่น และความยั่งยืนในภาคการบิน พร้อมรองรับความต้องการของการขนส่งทางอากาศ โดยสนับสนุนให้ประเทศสมาชิก นำข้อเสนอแนะของ ICAO มาปรับใช้
ทั้งยังย้ำถึงการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2593 โดยการสร้างความยืดหยุ่น และนวัตกรรมใหม่ด้านการบิน เรื่องเหล่านี้ จะเป็นประเด็นหารือที่สำคัญในการประชุมสมัชชาสมัยสามัญ ครั้งที่ 41 ของ ICAO ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในปี 2565
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แจ้งทุก ‘สายการบินทั่วโลก’ เดินทางเข้าไทย ปฏิบัติตาม ‘มาตรการใหม่’ อย่างเคร่งครัด
- สงครามรัสเซีย-ยูเครน ป่วน ‘สายการบินคาร์โก้’ แบกต้นทุนหลังแอ่น
- สายการบินแห่งชาติซาอุฯ เตรียมบินตรงมาไทยเริ่ม พ.ค.นี้