COVID-19

อย่างละเอียด! 6 ข้อเสนอ ‘เปิดประเทศ’ ฉบับเอกชน รับนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนแล้ว ‘ไม่ต้องกักตัว’

ภาคเอกชน ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยื่น 6 ข้อเสนอ เปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้ว ตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้

วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวบริการ และธุรกิจสายการบินของประเทศไทย นำโดย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TCT) ร่วมด้วยสมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมสปาไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สาขาประเทศไทย (PATA)

โดยมีแนวร่วมพันธมิตรธุรกิจสายการบิน ประกอบด้วย สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) สมาคมธุรกิจสายการบิน (BAR) และสมาคมสายการบินประเทศไทย (AAT) ได้นำเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีน และแผนการ เปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว (ที่ได้รับวัคซีนแล้ว) โดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

เปิดประเทศ

สำหรับเนื้อหาของแผนดังกล่าว ระบุว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวบริการ และธุรกิจสายการบินของประเทศไทย ขอชื่นชมภาครัฐ ในการบริหารจัดการการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างสูง ที่บริหารจัดการรับมือการแพร่ระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี

สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีระบบการเฝ้าระวังและการควบคุมโรคที่เข้มแข็งและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และยืนยันความสำเร็จในความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน

อย่างไรก็ตาม วาระเร่งด่วนระดับโลกของนานาประเทศ คือ การจัดสรร และการเร่งฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรภายในประเทศของตน เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และการเร่งการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

โดยที่หลายประเทศทั่วโลก เริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และคาดว่าประชากรในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา จีน ตะวันออกกลาง และทวีปยุโรปจะได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนถึง 70% ของประชากรทั้งหมดภายในช่วงปลายฤดูร้อน หรือเดือนสิงหาคมนี้

จากการสำรวจร่วมกับบริษัทนำเที่ยว ถึงนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศ ในตลาดเป้าหมายของไทย มีผลสำรวจว่า นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ต้องการที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก หากไม่มีการกักตัว ทำให้การกักตัว แม้ว่าจะลดปริมาณวันกักตัวเหลือ 7 วันนั้น ยังคงเป็นอุปสรรคในการตัดสินใจเดินทางอย่างยิ่ง

เปิดประเทศ

ดังนั้นทั้ง 8 องค์กรหลัก ในธุรกิจท่องเที่ยวบริการ และธุรกิจสายการบินของประเทศไทย ขอขานรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการเดินหน้าพื้นที่ Sandbox ในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนแนวทางของสมาคมหอการค้าไทย ในการบริหารจัดการวัคซีน และขอเสนอแผนต่อรัฐบาลในการบริหารจัดการวัคซีนในประเทศไทย เพื่อรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ดังต่อไปนี้

1. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ให้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ได้รับ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบเรียบร้อยแล้วเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว อย่างน้อยในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง เช่น ภูเก็ต และ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

2. เร่งรัดการจัดสรร และการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 70% ของประชากรในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง เช่น ภูเก็ต และ สมุย ภายในวันที่ 15 เมษายน – 30 มิถุนายน 2564 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในท้องถิ่น ให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เแล้วไม่ต้องกักตัวตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

(มติการประชุมโครงการ Phuket Tourism Sandbox ฉีดวัคซีนให้คนภูเก็ตและรับนักท่องเที่ยว โดยไม่กักตัว จะเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันที่ 26 มีนาคม และนำเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 30 มีนาคมนี้)

3. พิจารณาให้ภาคเอกชนร่วมกับรัฐบาลในการจัดหา และนำเข้าวัคซีนทางเลือกอื่น ๆ เพิ่มเติม จากผู้ผลิตในต่างประเทศทั่วโลก อย่างเร่งด่วน เพื่อกระจายวัคซีนดังกล่าวสู่ประชาชนภายในประเทศไทยอย่างทั่วถึง

4. เร่งจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรภาคท่องเที่ยว และบริการ (เช่น พนักงานโรงแรม และพนักงานสายการบิน) จำนวนเกือบ 1,000,000 คนทั่วประเทศ ภายในเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อสร้างความปลอดภัย และความมั่นใจ ให้แก่ทั้งบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน และแก่ตัวนักท่องเที่ยวเอง

เปิดประเทศ

แนวทางการบริหารจัดการ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของหอการค้าไทย ได้แก่ 

  • การกระจาย วัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างทั่วถึงโดยในภาคธุรกิจนั้น กลุ่มที่มีความเสี่ยงในธุรกิจบริการที่ต้องมีการติดต่อทั้งกับคนไทย และคนต่างชาติ ควรได้รับการฉีดเป็นลำดับต้น
  • รัฐต้องมีแผนกระจาย วัคซีน ที่ชัดเจน เพื่อให้เอกชนสามารถบริหารจัดการธุรกิจ ให้สอดคล้องกับแผนการกระจายวัคซีนได้ย่างมีประสิทธิภาพ
  • เร่งฉีดอย่างรวดเร็ว ซึ่งเอกชนสามารถร่วมทำแผนการกระจายวัคซีน เพื่อให้เข้าถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว และบริษัทที่มีกำลัง ก็ยินดีจ่ายค่าวัคซีนให้พนักงานเอง
  • การสื่อสารสร้างความมั่นใจโดยทุกฝ่ายต้องช่วยกันสื่อสารชี้แจง ถึงความปลอดภัยของวัคซีน ซึ่งจะเป็นแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของไทยให้เร็วยิ่งขึ้น)

5. ประกาศกรอบเวลา และเงื่อนไขที่ชัดเจน ในการเปิดประเทศ ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป อย่างน้อยสำหรับพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง และเร่งดำเนินการเปิดประเทศ สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้สามารถเดินทางได้ทั่วประเทศ ในเวลาอันรวดเร็ว ให้ทันกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จากประเทศที่เป็นตลาดสำคัญของไทย และฤดูกาลการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทางการตลาด โดยเฉพาะโรงแรมและสายการบิน และการเตรียมดำเนินการเพื่อเจรจาข้อตกลง “Travel Bubble” ระหว่างประเทศ

6. พิจารณาอนุมัติใช้ IATA Travel Pass ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวก แก่ทั้งนักเดินทาง สายการบิน และภาครัฐ ให้สามารถบริหารจัดการ และตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารรับรองผลตรวจ หรือใบรับรองการรับ วัคซีน โควิด 19

ทั้งยังเป็นการยกระดับมาตรการความปลอดภัย ในการคัดสรรนักท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยสูงเข้าสู่ประเทศไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นแอปพลิเคชัน ที่สายการบินทั่วโลกให้การยอมรับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo