COVID-19

รอสรุปเงื่อนไข! ‘หาบเร่-แผงลอย’ ลุ้นรับเงิน ‘คนละครึ่ง’

สศช. ชี้แจง “หาบเร่-แผงลอย” มีสิทธิ์รับเงิน “คนละครึ่ง” แต่ต้องรอคลังสรุปเงื่อนไข เพื่อให้เข้าร่วมโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏเป็นกระแสข่าว ที่รัฐบาลจะดำเนินการมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐผ่าน “โครงการคนละครึ่ง” ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เห็นชอบในหลักการของกรอบแนวคิดโครงการในคราวประชุมเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมานั้น

คนละครึ่ง

สศช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ ชี้แจงว่า ว่า โครงการคนละครึ่งยังมีลักษณะเป็นกรอบกว้าง โดยกระทรวงการคลัง จะต้องไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น คุณสมบัติของประชาชน และร้านค้า ที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการ จำนวนประชาชนที่จะได้รับสิทธิ์ วงเงินค่าใช้จ่ายต่อวัน ระบบการลงทะเบียน

นอกจากนี้ ต้องพิจารณากลไกในการช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกผู้ค้า ที่เป็นหาบเร่ แผงลอย ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง การหารือเรื่อง รูปแบบการชำระเงินด้วย

ทั้งนี้ เมื่อกระทรวงการคลังจัดทำรายละเอียดโครงการที่มีความสมบูรณ์แล้ว จะนำเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาตามขั้นตอนอีกครั้งหนึ่ง

ดังนั้น ในช่วงระหว่างนี้ จึงเป็นช่วงเวลาที่กระทรวงการคลังยังจัดทำรายละเอียดโครงการให้มีความสมบูรณ์ ขอให้สื่อมวลชน และประชาชนรอความชัดเจนในรายละเอียดของโครงการดังกล่าว ภายหลังจากการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในครั้งต่อไป

รอ “คนละครึ่ง” เข้าครม.

ก่อนหน้านี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายประชาชนที่มีสิทธิ์จำนวน 15 ล้านคน ในวงเงินคนละ 3000 บาทนั้น เป็นเพียงข้อเสนอในหลักการเบื้องต้น จากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.)

นายอนุชา กล่าวย้ำว่า รัฐบาลจะดำเนินการด้วยความรอบคอบ และให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเงินช่วยเหลือดังกล่าว ตั้งใจที่จะมอบให้ประชาชนนำไปใช้จ่ายได้ที่ร้านค้าทั่วไป เช่น ร้านหาบเร่แผงลอย ร้านโชห่วยต่าง ๆ และซื้อสินค้าในตลาดสดและตลาดนัด เพื่อให้ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า สามารถเข้าร่วมโครงการให้ได้มากที่สุด และเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

คนละครึ่ง

ส่วน นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นการบริโภค แจกเงิน 3000 บาท ให้กับประชาชนอายุ 18 ปี ขึ้นไป จำนวน 15 ล้านคน จะเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิผ่าน www. คนละครึ่ง .com ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้

ชื่อเว็บไซต์ที่ใช้ลงทะเบียนนั้น ต้องการสื่อสารให้ชัดเจนว่า มาตรการนี้รัฐไม่ได้แจกเงินอย่างเดียว แต่ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ต้องร่วมจ่ายเงินในการซื้อสินค้าอุปโภคด้วยครึ่งหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ สศค. กำลังเร่งสรุปรายละเอียด ของโครงการทั้งหมด เพื่อเสนอให้ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะได้ดำเนินการเตรียมพร้อมระบบการลงทะเบียน เงินที่จะมาใช้ในโครงการให้ทันกลางเดือนตุลาคมนี้

นายลวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับเงื่อนไขของโครงการนั้น ประชาชนที่จะได้รับสิทธิ์ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป โดยผู้ที่ผ่านเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อนี้สามารถลงทะเบียนได้หมด เพราะเป็นมาตรการต้องการกระตุ้น ให้เกิดการใช้จ่ายจริงๆ รวมถึง ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการขณะนี้ ก็นำร้านค้า จากโครงการชิมช้อปใช้ ประมาณ 5 – 6 หมื่นร้าน และจะมีการลงพื้นที่ เพื่อให้ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย เข้าโครงการให้มากที่สุด

ส่วนการเปิดให้ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ เช่น ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ห้างสรรพสินค้า เข้าร่วมโครงการด้วยนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งเป้าหมาย คือ ต้องการให้เกิดการใช่จ่าย กระตุ้นการบริโภค ภายในประเทศให้มากที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo