COVID-19

เผยผลศึกษาประสิทธิภาพ ‘วัคซีน Bivalent’ ลดความเสี่ยงป่วยนอนโรงพยาบาลได้ 60%

หมอธีระ” เผยผลศึกษาประสิทธิภาพวัคซีน Bivalent” ในอเมริกา ลดความเสี่ยงป่วยนอนโรงพยาบาลได้ 60% ในช่วง 2 เดือนแรกหลังฉีด แต่ประสิทธิภาพจะลดลงเหลือ 25% หลังฉีดไปเกิน 4 เดือน

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat  ระบุว่า อัพเดตเรื่องโควิด-19 

วัคซีน Bivalent

1. สายพันธุ์ที่ระบาดทั่วโลก

องค์การอนามัยโลกออกรายงาน WHO Weekly Epidemiological Update เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา (ภาพที่ 1-3) ปัจจุบันมีประเทศที่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลมาที่ WHO ลดลงมาก เหลือราว 42 ประเทศ หรือเพียง 18% ของประเทศทั้งหมดที่เป็นภาคีสมาชิก ทั้งนี้ มีเพียง 22 ประเทศที่รายงานอย่างสม่ำเสมอ

วัคซีน Bivalent

ทั้งนี้ข้อมูลจนถึง 7 พฤษภาคม 2566 พบว่า สายพันธุ์ที่ระบาดหลักยังคงเป็น XBB.1.5 มีสัดส่วนตรวจพบราว 41.57% โดยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

ในขณะที่ XBB.1.9.1 พบ 15.65% และ XBB.1.16 พบ 13.17% โดยทั้งสองสายพันธุ์นี้พบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

350331580 759655145820311 6609649417698744537 n

2. ประสิทธิภาพของวัคซีน Bivalent ในอเมริกา

ทีมงานจาก US CDC เผยแพร่ผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนชนิด Bivalent ลงในวารสาร MMWR วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 (ภาพที่ 4)

การลดเสี่ยงป่วยนอนโรงพยาบาล

ในภาพรวมพบว่า ประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย Bivalent vaccine ในกลุ่มประชากรผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปนั้น ช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยนอนโรงพยาบาลได้ราว 60% ในช่วง 2 เดือนแรกหลังฉีด

แต่ประสิทธิภาพจะลดลงเหลือราว 25% หลังฉีดไปเกิน 4 เดือน โดยประสิทธิภาพในคนสูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจะมากกว่าคนอายุ 18-64 ปีเล็กน้อย

350299871 954663259102399 542045820148350932 n

การลดเสี่ยงป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิต

ในภาพรวมพบว่า ประสิทธิภาพของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย Bivalent vaccine ในกลุ่มประชากรผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปนั้น ช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยรุนแรงจนต้องนอนรักษาในไอซียู หรือเสียชีวิตได้ราว 69% ในช่วง 2 เดือนแรกหลังฉีด

ทั้งนี้ ประสิทธิภาพจะลดลงเหลือราว 50% หลังฉีดไปเกิน 4 เดือน 

350287861 280384387852110 9034446509821726180 n

ผลการศึกษาข้างต้น

ช่วยให้เราเห็นความสำคัญของการฉีดวัคซีน ที่จะช่วยลดความเสี่ยงป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง สูงอายุ มีโรคประจำตัว ซึ่งมักมีสถานะสุขภาพที่ไม่แข็งแรง

อย่างไรก็ตาม ก็ตอกย้ำให้เราทราบว่า ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดที่ยังรุนแรงในประเทศไทยนั้น จำเป็นต้องมีการป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด แม้จะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมาแล้วก็ตาม เพราะวัคซีนช่วยลดความเสี่ยงได้บางส่วน

การป้องกันตัวด้วยวิธีอื่นๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท เลี่ยงที่แออัดหรือที่ระบายอากาศไม่ดี ไม่แชร์ของกินของใช้กับผู้อื่นนอกบ้าน ที่สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก ไม่ติดเชื้อ หรือไม่ติดซ้ำ ย่อมดีที่สุด

350289947 646436957525038 2959348316278242781 n

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo