Branding

ไปรษณีย์ไทย ขึ้นค่าส่งจดหมายในประเทศ ครั้งแรกในรอบ 17 ปี

บอร์ดดีอี เคาะไปรษณีย์ไทย ขึ้นค่าส่งจดหมายครั้งแรกในรอบ 17 ปี ไฟเขียวปรับขึ้น 2 รอบ พร้อมไฟเขียวพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐ รองรับกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 3/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มอบอำนาจให้กระทรวงดิจิทัลฯ พิจารณาการเสนอขอปรับอัตราค่าบริการไปรษณียภัณฑ์ในประเทศ ตามร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ……

ไปรษณีย์ไทย

การปรับขึ้นค่าบริการดังกล่าว เป็นการขอปรับค่าบริการครั้งแรกในรอบกว่า 17 ปี ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) และมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลฯ เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ…..ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

สำหรับการปรับค่าบริการดังกล่าวจะปรับเฉพาะบริการจดหมายในประเทศเท่านั้น โดยปรับอัตราค่าบริการเป็น 2 รอบ รอบแรกคงอัตราค่าบริการพิกัดแรกไว้ที่ 3 บาท เช่นเดิมเป็นระยะเวลา 3 ปี (2565-2567)

จากนั้นรอบสอง จะปรับอัตโนมัติในครั้งถัดไปตั้งแต่ปี 2568 โดยมีอัตราค่าบริการในพิกัดแรก 4 บาท และอัตราค่าบริการสูงสุด 62 บาท โดยประกาศให้มีผลบังคับใช้อัตราค่าบริการที่ปรับปรุงใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันให้มีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับสภาวะต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสม

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ ยังให้ความเห็นชอบ (ร่าง) นโยบายการพัฒนาแพลตฟอร์มภาครัฐเพื่อรองรับการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Government Platform for PDPA Compliance : GPPC)

นายกฯ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทั้งนี้ เพื่อเป็นกรอบทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาแพลตฟอร์มฯ ช่วยสนับสนุนการดำเนินการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลฯ เพื่อให้บริการหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ลดภาระด้านงบประมาณในภาพรวมของภาครัฐ

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ตามนโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลฯ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)

พร้อมกันนี้ ได้กำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินงาน แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่

  • ระยะที่ 1 (1 ปี 6 เดือน) ดำเนินการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางฯ และส่งเสริมให้มีการใช้งานแพลตฟอร์มกลางฯ ไปยังหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 200 หน่วยงาน อบรมบุคลากร 2,000 คน
  • ระยะที่ 2 ดำเนินการส่งเสริมให้เกิดการใช้งานแพลตฟอร์มฯ ในภาคเอกชน และทำการติดตามประเมินผลการใช้งานแพลตฟอร์ม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo