จากก่ารแพร่ระบาดต่อเนื่องของไวรัสโควิด-19 ทำให้มาตรการคุมเข้มเพื่อเฝ้าระวังป้องกันการติดเชื้อ ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะจุดที่มีผู้เข้าไปใช้บริการจำนวนมาก
ล่าสุดร้านค้าปลีกในเครือซีพี อย่าง แม็คโคร และ เซเว่น อีเลฟเว่น ออกมาขอความร่วมมือลูกค้าให้สวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้ง ซึ่งแม้จะใช้คำว่า ขอความร่วมมือ แต่ในแง่ปฏิบัติแล้ว จะไม่ให้ลูกค้าเข้าร้านหากไม่มีหน้ากากอนามัย ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยทั้งของพนักงานและลูกค้าที่เข้าไปจับจ่ายซื้อสินค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เริ่มนำมาตรการให้ลูกค้าใส่หน้ากากอนามัยมาใช้อย่่างจริงจัง โดยติดป้ายหน้าร้านว่า “ขอความร่วมมือลูกค้าทุกท่าน สวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้านทุกครั้ง” และพนักงานจะแจ้งลูกค้าที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยว่า กรุณาสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้าน จึงจะสามารถเข้าไปซื้อสินค้าได้
นอกจากนี้ หน้าเพจเฟซบุ๊ก “7-Eleven Thailand” ยังเผยแพร่ภาพขอความร่วมมือให้ลูกค้าสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าร้าน พร้อมระบุว่า
“ร่วมด้วยช่วยกัน ดูแลตัวเอง ดูแลคนรอบข้าง เว้นระยะห่างทางสังคม แล้วเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกันครับ”
ด้านบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ก็ได้ประกาศใช้มาตรการเข้มข้นให้ทุกคนสวมหน้ากากฯ ก่อนเข้าและขณะอยู่ภายในสาขา ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง หรือสถานการณ์จะคลี่คลาย
นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ไม่สะดวก หรือไม่มีหน้ากากอนามัย ด้วยการจัดพื้นที่ให้นั่งรอ และมีเจ้าหน้าที่เข้ามาบริการรับออร์เดอร์เพื่อจัดสินค้าที่ลูกค้าต้องการให้ หรือแนะนำให้สั่งซื้อสินค้าผ่านบริการออนไลน์ แม็คโคร คลิก เพื่อเป็นทางเลือกด้วย
ขณะเดียวกัน แม็คโครยังแนะนำให้ลูกค้าชำระเงินด้านระบบ อี-เพย์เมนต์ เพื่อลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ทางธนบัตรและเหรียญ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายด้วย คิวอาร์โค้ด หรือ ทรูมันนี่ อี-วอลเล็ต เพื่อให้พนักงานและลูกค้าลดการสัมผัสเงินที่อาจจะปนเปื้อนเชื้อโรคหรือไวรัสโควิด-19
