Branding

‘พีทีจี’ ทุ่มต่อ 5,000 ล้าน หลังผงาดที่ 2 ปั๊มน้ำมัน ย้ำขาย ‘บี 10’ แล้ว

พีทีจี เอ็นเนอยี เปิดแผนรุกปีนี้ ทุ่มงบลงทุน 5,000 ล้านบาท ขยายธุรกิจ 3 ขา หลัก ตั้งเป้ายอดขายธุรกิจน้ำมันโต 15-20% เพิ่มจำนวนปั๊มแตะ 2,200 แห่ง พร้อมเจาะธุรกิจ LPG ภาคครัวเรือน หลังทะยานขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 2 ธุรกิจพลังงาน

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนราว 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนกลุ่มธุรกิจหลักหรือน้ำมัน 4,000 ล้านบาท, กลุ่มธุรกิจนอนออยล์ 500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจใหม่500 ล้านบาท

พีทีจี

นอกจากนี้ยังวางเป้าหมายยอดขายน้ำมันเติบโตขึ้น 15-20% รวมทั้งเพิ่มจำนวนสถานีบริการเป็น 2,200 แห่ง พร้อมรุกธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น รวมถึงขยายฐานสมาชิกผู้ถือบัตร PT Max Card เพิ่มเป็น 15 ล้านสมาชิก หลังจากพบว่า 72% ของสมาชิกนำ PT Max Card มาใช้ที่สถานีบริการเป็นประจำ โดยจะเดินหน้าความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน พีทีจี ยังสนองตอบนโยบายภาครัฐ ด้วยการประกาศจำหน่าย B10 ในสถานีบริการน้ำมันตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ซึ่งข้อดีของ B10 คือช่วยลดมลพิษและปริมาณฝุ่น PM2.5 สร้างสมดุลอุตสาหกรรมปาล์มของประเทศ สร้างสมดุลปริมาณการใช้ในภาคพลังงานและเพื่อการบริโภค ตลอดจนสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน หลังจากเป็นผู้นำในตลาดน้ำมัน ฺฺB20 ในปี 2562 ที่ผ่่านมาส่วนแบ่งตลาด 32.1%

ในส่วนของโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ที่จะเดินเครื่องเต็ม 100% ในปี 2563 นี้ โดยจะมีกำลังการผลิตไบโอดีเซล (B100) อยู่ที่ 5 แสนลิตรต่อวัน และน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค (โอเลอีน) 2 แสนลิตรต่อวัน

unnamed

ขณะที่ธุรกิจก๊าซ LPG บริษัทตั้งเป้าภายในปี 2563 จะขึ้นแท่นเป็นผู้ให้บริการสถานีก๊าซ Auto LPG อันดับ 1 ในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเตรียมขยายธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน เนื่องจากเห็นโอกาสในการทำตลาด จากปัจจุบันที่มีการจำหน่าย LPG ผ่านสถานีบริการในภาคขนส่งเท่านั้น โดยพีทีจีคาดว่ายอดขายในส่วนของ LPG จะเติบโตได้ 30-40% จากปีที่แล้ว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 2562 พีทีจี สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำสถานีบริการน้ำมันที่มียอดขายอันดับ 2 ของประเทศ โดยธุรกิจน้ำมันเติบโต 19.4% มาจากรถใช้เพื่อเชิงพาณิชย์เป็นหลัก ขณะที่จำนวนสถานีบริการน้ำมันและแก๊สทะลุ 2,000 แห่งเพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึง 7.6% จำนวนบัตรสมาชิก PT Max Card ครบ 12.6 ล้านสมาชิก

นอกจากนี้ ยังมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเติบโตอยู่ที่ 50.2% และมีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 150.6% จากปีที่แล้ว ด้วยอัตรากำไรที่สูงขึ้น รวมถึงการนโยบายรัดกุมเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างเป็นระบบ

Avatar photo