แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ดึงเชนโรงแรมระดับโลก “อินเตอร์คอน” เดินหน้าพัฒนาห้องพักกว่า 1,200 ห้องในไทย ประเดิมปรับโฉม “อิมพีเรียลแม่ปิง” เป็น “อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง” พร้อมเปิดเต็มรูปแบบปี 65
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) เปิดเผยว่า แอสเสท เวิรด์ฯ ได้ลงนามกรอบความตกลงด้านการบริหารจัดการโรงแรมร่วมกับ IHG (อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป) หนึ่งในผู้นำธุรกิจโรงแรมชั้นนำระดับโลก เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาโรงแรม ทั้งในรูปแบบการปรับโฉม และพัฒนาโรงแรมใหม่รวมกว่า 1,200 ห้องในจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญต่าง ๆ ในประเทศไทย
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว จะเริ่มจากปรับปรุงโรงแรมอิมพีเรียล แม่ปิง เป็น อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ที่วางคอนเซ็ปต์ใหม่ให้โรงแรมเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตแห่งแรกของไทย ด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ในเชียงใหม่และในประเทศไทย ด้วยห้องพัก 306 ห้องและพื้นที่จัดประชุมและจัดเลี้ยงทั้งภายในและภายนอกกว่า 3,600 ตารางเมตร โดยมีกำหนดเปิดทำการในปี 2564 และจะดำเนินการส่วนขยายจนแล้วเสร็จอย่างเต็มรูปแบบในปี 2565
นางสาวเซเรนา ลิม รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ IHG เพราะประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวชั้นนำทั้งสำหรับกลุ่มที่เข้ามาทำธุรกิจและเข้ามาพักผ่อน การจับมือ ร่วมเป็นพันธมิตรกับ AWC จะช่วยให้ IHG สามารถสร้างการเติบโตต่อไปในประเทศ พร้อมทั้งช่วยผลักดันการขยายการเติบโตของแบรนด์ระดับโลกในจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความเป็นพันธมิตรระหว่าง 2 บริษัท ต่อเนื่องจากความสำเร็จที่ผ่านมากับการพัฒนาและการบริหารโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร จนได้รับรางวัล “Loved by Guests 2019” จากเว็บไซต์ Hotels.com และรางวัล TTG Travel Awards 2019 สาขา Best Budget Hotel 2019 ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์ที่เด่นชัดถึงความพึงพอใจ จากผู้เข้าพักที่มีต่อโรงแรมในระดับสูง
การพัฒนาโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง ครั้งนี้ เนื่องจากมองเห็นโอกาสของตลาด หลังการขยายพื้นที่ของสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 16 ล้านคนในปี 2565 และสนามบินแห่งที่ 2 ของจังหวัดเชียงใหม่ ในเขตอำเภอสันกำแพงซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 10 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้อุตสาหกรรมไมซ์และการประชุมในระดับระหว่างประเทศในเชียงใหม่นั้นมีการเติบโตถึง 250% ในระหว่างปี 2556 ถึงปี 2561
ทั้งนี้ ณ 30 มิถุนายน 2562 แอสเสท เวิรด์ฯ เป็นเจ้าของโรงแรมระดับ Midscale ขึ้นไปรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยเป็นเจ้าของโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 10 แห่ง มีจำนวนห้องพักรวมทั้งสิ้น 3,432 ห้อง ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ สมุย กระบี่ และภูเก็ต (โรงแรมที่กระบี่และภูเก็ตอยู่ระหว่างการพัฒนา) รวมทั้งมีโรงแรมอีก 5 แห่งที่กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงหรือพัฒนาใหม่
นอกจากนี้ ยังได้ตกลงที่จะเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์อีก 12 แห่ง ตามสัญญาซื้อขายหุ้นปี 2562 เป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 4 แห่ง โรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหรือมีแผนการในการพัฒนาจำนวน 6 แห่ง และโครงการอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูส (Mixed-used Properties) 2 แห่ง เมื่อรวมจำนวนห้องพักของโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงหรือพัฒนาใหม่ และโรงแรมที่บริษัทฯ ได้ตกลงที่จะเข้าซื้อ รวมทั้งสิ้น 27 โรงแรม จะทำให้มีจำนวนห้องพักรวมทั้งสิ้นประมาณ 8,500 ห้อง
ปัจจุบัน แอสเสท เวิรด์ฯ มีพันธมิตรเชนโรงแรมระดับโลกรวม 7 เชนโรงแรม ที่ตอบโจทย์กับแต่ละเซ็กเม้นต์ที่โฟกัส ได้แก่ แมริออท, ดับเบิลทรี, ฮิลตัน,เมอริเดียน, ดิโอกุระ, มิเลีย และล่าสุดคือ IHG
