หลังจากซุ่มชิมลางเปิดแบรนด์ “อร่อยดี” มาได้เกือบครบ 1 ปี ล่าสุด บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี นำทัพโดย “ณัฐ วงศ์พานิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีอาร์จี ก็พร้อมออกมาประกาศปั้นแบรนด์ อร่อยดี เต็มสูบ ทั้งการขยายหน้าร้านในทุกทำเล ควบคู่กับเดลิเวอรี่ ตามเทรนด์ลูกค้ายุคใหม่
นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี เปิดเผยว่า จากสภาพตลาดสตรีทฟู้ดในประเทศไทย ที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2.7 แสนล้านบาทต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ต้องการทานอาหารที่เข้าถึงได้ง่ายและมีรสชาติอร่อย และชอบทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น
จากแนวโน้มดังกล่าว ซีอาร์จีจึงมองเห็นโอกาสในการรุกตลาดอาหารกลุ่มสตรีทฟู้ด ด้วยการพัฒนาแบรนด์ “อร่อยดี” ขึ้น ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 แบรนด์ ที่เป็นการพัฒนาขึ้นเอง ได้แก่ แบรนด์ ไทยเทอเรส, อร่อยดี, สุกี้เฮ้าส์, ซอฟท์แอร์ และ เกาลูนซึ่งจะเปิดตัวเร็วๆ นี้
สำหรับแบรนด์ร้านอาหารไทยตามสั่ง อร่อยดี ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “อร่อยดี ตามสั่งจานเด็ด” ที่นำเสนอเมนูตามสั่งจานเด็ดยอดฮิตของทั้งคนไทยและคนต่างชาติ อาทิ กะเพราซีรี่ย์ทั้ง 3 เมนู คือ กะเพราดั้งเดิม , กะเพราจัดจ้าน , กะเพราคนเมือง
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาฟอร์แมต คลาวด์ คิทเช่น (Cloud Kitchen) เพื่อรองรับการบริการแบบดีลิเวอรี่ ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายต่อไปคือ จะสร้างจุดแข็งให้เป็น ไฮบริด คิทเช่น เพื่อเป็นฮับครัวกลางที่รวมร้านอาหารเด็ด เมนูดัง มาไว้ในที่เดียว โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่น ฟู้ด ฮันท์ (Food Hunt) และบริการแบบ Grab & Go เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองในช่วงเวลาเร่งรีบตามจุดขนส่งสาธารณะ เช่น สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และเอ็มอาร์ที
พร้อมกันนี้ ได้วางแผนขยายสาขาร้านอร่อยดี จากปัจจุบันมีทั้งหมด 12 สาขา คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีครบทั้งหมด 15 สาขา รวมทั้งวางแผนปี 2573 จะเปิดเพิ่มอีก 35 สาขา ทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล โดยจับมือพันธมิตรที่มีศักยภาพในทำเลใหม่ๆ เพื่อกระจายสาขาให้ครอบคลุม อาทิ สถานีบริการน้ำมัน, ธุรกิจค้าส่ง, ไฮเปอร์มาร์เก็ต คอนโดมิเนียม ย่านชุมชนที่พักอาศัย ฯลฯ เพื่อเพิ่มฐานกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทุกเซกเมนต์ พร้อมตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีนับจากนี้
ขณะเดียวกัน จะเร่งพัฒนารูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อย กลุ่มนักลงทุนใหม่ และกลุ่มผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทำธุรกิจร่วมกัน โดยคาดว่าจะพร้อมเริ่มขายแฟรนไชส์ต้นปี 2573
