Branding

‘แอสเสท เวิรด์’ ระดมทุนเฉียด 5 หมื่นล้าน ขายไอพีโอ 8,000 ล้านหุ้น

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ได้ฤกษ์ปล่อยมูลค่าการเสนอขายหุ้นไอพีโอ ระดมทุน 48,000 ล้านบาท จากการจัดสรรหุ้น 8,000 ล้านหุ้น ถือเป็นการทำไอพีโอของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดในโลกในรอบ 5ปีที่ผ่านมา เดินหน้าต่อยอดกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์

69751

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แอสเสท เวิรด์ ได้ลงนามในสัญญาจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) มูลค่า 48,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของกระบวนการเสนอขายหุ้นสามัญที่มีมูลค่าสูงที่สุดที่เคยมีมาในประเทศไทยโดยได้จัดสรรหุ้นทั้ง 8,000 ล้านหุ้น ให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและในต่างประเทศรวมถึงนักลงทุนรายย่อยในประเทศ

ทั้งนี้ สัดส่วนระหว่างนักลงทุนในต่างประเทศและนักลงทุนในประเทศคิดเป็น 53% และ 47% ตามลำดับ และด้วยมูลค่าเสนอขายดังกล่าว เป็นผลให้ แอสเสท เวิรด์ฯ มีโอกาสได้รับการจัดเข้าไปรวมอยู่ในดัชนี SET50 ด้วยเกณฑ์ในแบบ Fast track อีกด้วย

สำหรับผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายของ แอสเสท เวิรด์ฯ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์, จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ขณะที่ผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ ได้แก่ เมอร์ริล ลินช์ (สิงคโปร์) มอร์แกน สแตนเลย์ แอนด์ โค อินเตอร์เนชันแนล และ ยูบีเอส สิงคโปร์  โดยแอสเสท เวิรด์ เตรียมพร้อมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในต้นเดือนตุลาคมนี้

เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปต่อยอดทั้งสินทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail & Commercial Building) ผ่านการเข้าซื้อกิจการที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินตามสัญญาซื้อขายหุ้นปี 2562 ซึ่งจะเป็นโครงการใหม่ๆ ที่เข้ามาเสริมในพอร์ตลงทุนของ แอสเสท เวิรด์ หลังการทำไอพีโอ รวมทั้งนำไปลงทุนพัฒนา และปรับปรุงทรัพย์สินของบริษัท หรือบริษัทย่อย หรือทรัพย์สินที่จะได้มาเพิ่มเติมตามสัญญาซื้อขายหุ้นปี 2562 เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยบางส่วนจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และเพื่อประโยชน์ในการบริหารเงินของบริษัท

69745

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40%  ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติตามงบการเงินรวมของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักเงินสำรองต่างๆ ตามที่กฏหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี โดยเงินปันผลที่จ่าย จะไม่เกินกว่ากำไรสะสมของงบการเงินเฉพาะกิจการ

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอาจกำหนดการจ่ายเงินปันผล และอัตราการจ่ายปันผลที่แตกต่างไปจากอัตราที่กำหนดนี้ไว้ได้ โดยคำนึงถึงผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน กระแสเงินสด เงินทุนหมุนเวียน และแผนการลงทุนและการขยายธุรกิจ สภาพตลาด ภาระหนี้สิน เงื่อนไขและข้อจำกัดตามที่กำหนดไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน และความเหมาะสมอื่น ๆ ในอนาคตของบริษัท รวมทั้งความจำเป็น ตลอดจนปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งคณะกรรมการบริษัทพิจารณาเห็นสมควร

Avatar photo