ซี.พี.อินเตอร์เทรด งัดกลยุทธ์ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ต่อยอดปั้นแบรนด์ “ข้าวตราฉัตร” สู่ สินค้าไลฟ์สไตล์ ทุ่มงบกว่า 15 ล้านบาทหนุนกีฬา ล่าสุดโดดเป็นสปอนเซอร์ สมาคมกีฬากอล์ฟสตรี ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 หวังพัฒนาและสร้างเยาวชนก้านเหล็กไทยโชว์ผลงานกระหึ่มโลก
นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ข้าวตราฉัตร เปิดเผยว่า กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ข้าวตราฉัตรให้ความสำคัญในการนำมาสร้างแบรนด์และต่อยอดเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านการสนับสนุน ส่งเสริมและสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยได้เล่นกีฬาและแข่งขันทัวร์นาเม้นท์ต่างๆ เพื่อสร้างให้ข้าวตราฉัตรเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันหรือไลฟ์สไตล์ โปรดักส์
ทั้งนี้ การนำข้าวตราฉัตรไปเป็นส่วนหนึ่งของกีฬา ดนตรี จะทำให้แบรนด์ใกล้ชิดกับผู้บริโภค ช่วยเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อข้าวตราฉัตร ทำให้แบรนด์มีชีวิต ชีวา โดยกลยุทธ์ดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นโกลบอล แพลตฟอร์ม เริ่มจากประเทศไทย สะท้อนไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันข้าวตราฉัตรมีการส่งออกไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ กว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยในปีนี้บริษัทใช้งบประมาณสำหรับกลยุทธ์สปอร์ต มาร์เก็ตติ้งกว่า 15 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 20 ล้านบาทในปีหน้า ผ่านการเป็นผู้สนับสนุนนักกีฬา สมาคมกีฬา รวมถึงการจัดอีเว้นต์ต่างๆ
ล่าสุดข้าวตราฉัตรให้การสนับสนุน สมาคมกีฬากอล์ฟสตรี ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ซึ่งมี “น้องจีน- อาฒยา ฐิติกุล” นักกอล์ฟสาวมหัศจรรย์ และทัพก้านเหล็กเยาวชนไทย เป็นต้นแบบให้กับเยาวชนไทยรุ่นใหม่ที่สนใจเล่นกีฬา แต่ขาดโอกาส และปัจจัยสนับสนุนรอบด้านทั้งเรื่องของเงิน โค้ช และวิทยาศาสตร์การกีฬา
“การสนับสนุน สมาคมกีฬากอล์ฟสตรี ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 จะเป็นแรงผลักดันให้นักกอล์ฟเยาวชนมีกำลังใจในการฝึกซ้อมและทำผลงานออกมาดีที่สุด”นายสุเมธกล่าว
สำหรับการสนับสนุนกีฬา ข้าวตราฉัตรได้เริ่มให้การสนับสนุนเมื่อ 2 ปีก่อน เริ่มต้นจากโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ต้นสังกัดของ “น้องเมย์- รัชนก อินทนนท์” นักหวดลูกขนไก่สาวมือ 1 ของไทยและ “น้องวิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักหวดหนุ่มดาวรุ่งเจ้าของแชมป์เยาวชนโลก 2 สมัยซ้อน เพื่อหวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนานักกีฬาแบดมินตันไทยตั้งแต่ระดับเยาวชนให้ประสบความสำเร็จในระดับโลก
