Auto

เป้าชัด!!ลุยอีวี ลั่นปี 2568 ส่ง ‘บีเอ็มดับเบิลยู i’ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 25 รุ่น

บีเอ็มดับเบิลยูประกาศเดินหน้าพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้า ตั้งเป้าปี 2568 จะมี “บีเอ็มดับเบิลยู i” ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารวม 25 รุ่น หลังผุดโรงงานประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูง เร่งขยายโครงการ “ชาร์จนาว” ทั่วประเทศ

Christian Wiedmann
คริสเตียน วิดมานน์

นายคริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวในงานเสวนา “The Future of Mobility” ว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สร้างสถิติใหม่ด้วยอัตราการเติบโตปีต่อปีของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่ 20% ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดในเครือข่ายบีเอ็มดับเบิลยูทั่วโลกสองปีซ้อน

สิ่งหนึ่งที่ยืนยันความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู คือ ยอดการส่งมอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในประเทศไทยที่พุ่งสูงขึ้นถึง 122% ในปีที่ผ่านมา และเร็วๆ นี้จะมีรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดในเมืองไทย เพื่อต่อยอดความสำเร็จหลังจากการเปิดตัวของบีเอ็มดับเบิลยู 530e บีเอ็มดับเบิลยู 740Le บีเอ็มดับเบิลยู i8 Coupe และบีเอ็มดับเบิลยู i8 Roadster

ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยูจะเดินหน้าขยายเครือข่ายการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอย่างต่อเนื่อง โดยต่อยอดจากโครงการชาร์จ นาว (ChargeNow) ในปี 2560 โดยปัจจุบันให้บริการทั้งหมด 121 หัวจ่าย ทั้งที่สถานีชาร์จนาว และที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู ใน 57 แห่งทั่วประเทศไทย

The Future of Mobility 7

ขณะเดียวกัน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ยังลงทุนร่วมกับ แดร็คเซิลไมเออร์ กรุ๊ป รวมกว่า 400 ล้านบาท เพื่อประกอบแบตเตอรี่แรงดันสูงในประเทศไทย ทั้งการประกอบโมดูลแบตเตอรี่และการประกอบตัวแบตเตอรี่แพ็ค ซึ่งจะเริ่มต้นสายการประกอบในปี 2562 นี้ ซึ่งแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ประกอบสมบูรณ์แล้ว จะถูกส่งไปยังโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูที่ระยอง เพื่อติดตั้งในรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 เริ่มต้นเฟสแรก ภายในปี 2562 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ยังได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในการลงทุนเพิ่มเติมด้วยมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท สำหรับการประกอบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในอนาคต

The Future of Mobility 3 Dr. Andreas Aumann
แอนเดรียส อัลมานน์

ด้าน ดร. แอนเดรียส อัลมานน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าและ บีเอ็มดับเบิลยู i บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป กล่าวเพิ่มเติมว่า ความนิยมในยานยนต์ไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทั่วโลก และยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต ซึ่งการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า หนึ่งในเสาหลักของกลยุทธ์ “NUMBER ONE > NEXT” ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สู่ยานยนต์แห่งโลกอนาคต ACES อันได้แก่ Autonomous ระบบขับขี่อัตโนมัติ, Connectedระบบเชื่อมต่อครบวงจร, Electrified ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และ Services/Shared การให้บริการ

ในปี 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ทั่วโลก รวมทั้งสิ้น 142,617 คัน นับเป็นอัตราการเติบโตถึง 38.4%

ขณะที่ภายในปี 2564 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป จะมีรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 5 รุ่น คือ บีเอ็มดับเบิลยู i3 มินิ อิเล็คทริค บีเอ็มดับเบิลยู iX3 บีเอ็มดับเบิลยู i4 และบีเอ็มดับเบิลยู iNEXT และภายในปี 2568 บีเอ็มดับเบิลยู i จะมีรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารวมทั้งหมด 25 รุ่น ประกอบด้วยรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ถึง 12 รุ่น

Avatar photo