ค่ายรถยักษ์ใหญ่ลูกผสมอเมริกัน- อิตาลี “เฟียต ไครสเลอร์” ยื่นข้อเสนอควบรวมกิจการกับ “เรโนลต์” ค่ายรถยนต์รายใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส ที่อาจทำให้เกิดผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดอันดับ 3 ของโลก
เฟียต ไครสเลอร์ แถลงว่า ได้ส่งจดหมายที่ไม่มีพันธะผูกมัดไปยังเรโนลต์ เสนอที่จะรวมกิจการของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าด้วยกัน โดยถือหุ้นเท่ากันฝั่งละ 50% ในบริษัทที่อาจจะเข้าจดทะเบียนทั้งใน ปารีส นิวยอร์ก และมิลาน
ขณะที่เรโนลต์เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทจัดประชุมกันขึ้นในวันนี้ (27 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือถึงข้อเสนอดังกล่าว
ทางด้านแหล่งข่าววงใน ระบุว่า การประชุมเริ่มขึ้นต้งแต่เมื่อเวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นที่สำนักงานใหญ่ของเรโนลต์ ใกล้กับกรุงปารีส แต่คาดว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจอะไรออกมาในวันนี้ อาจต้องใช้เวลาอีกหลายวัน หรือหลายสัปดาห์
ข่าวที่ออกมาดังกล่าว ส่งผลให้ราคาหุ้นเฟียต ไครสเลอร์ ที่ตลาดมิลาน พุ่งขึ้นไปถึง 18% ในช่วงเปิดซื้อขาย ก่อนที่จะปรับตัวลงมาเล็กน้อย
เฟียต ไครสเลอร์ บอกด้วยว่า การควบรวมกิจการจะทำให้เกิดกลุ่มยานยนต์ระดับโลกที่มีชื่อเสียง ด้วยยอดขายปีละ 8.7 ล้านคัน ทั้งพอร์ตแบรนด์ของบริษัทก็จะขยายวงกว้างมากขึ้น และครอบคลุมตลาดเกือบทั้งหมด ไล่ตั้งแต่รถยนต์หรู ไปจนถึงรถยนต์ที่เป็นกระแสหลัก
แม้ในปัจจุบัน การจับมือเป็นพันธมิตรกับนิสสัน และมิตซุบิชิ จะทำให้มีรถออกสู่ตลาดราว 10.8 ล้านคันต่อปี เทียบกับโฟล์กสวาเก้น ของเยอรมนี และโตโยต้า ของญี่ปุ่น ที่ราว 10.6 ล้านคันต่อปี แต่การผูกสัมพันธ์กับเฟียต ไครสเลอร์ จะยิ่งทำให้เรโนลต์มีอิทธิพลมากขึ้นในความสัมพันธ์กับค่ายพันธมิตรเดิม ที่เรโนลต์พยายามผลักดันให้มีการตั้งบริษัทใหม่ ที่ทั้ง 2 ฝ่ายถือหุ้นเท่ากัน 50% สำหรับบริหารค่ายรถยนต์ทั้งคู่
แต่นิสสันปฏิเสธข้อเสนอนี้ เพราะรู้สึกว่า ตัวเองเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่า และควรได้รับการปฏิบัติในฐานะบริษัทที่มีขนาดใหญ่กว่า
