Auto

บีเอ็มดับเบิลยู-เดมเลอร์ รวมพลังทุ่มพันล้านดอลล์รุกธุรกิจเรียกรถรับส่ง

บรรดาค่ายรถยนต์รายต่างๆ พากันจับตามองการเติบโตของบริการเรียกรถรับส่งผ่านแอพพลิเคชัน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่นอกจากจะปฏิวัติวงการรถสาธารณะแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ด้วย

09037993

บริษัทรายล่าสุดที่กระโดดเข้ามาลงทุนในด้านนี้คือ บีเอ็มดับเบิลยู เอจี และเดมเลอร์ ที่ร่วมทุนกัน 1,100 ล้านดอลลาร์ เพื่อแข่งขันกับอูเบอร์ ลิฟท์ และบริษัทอื่นๆ ในธุรกิจนี้

การลงทุนข้างต้น ที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังรวมถึงการเป็นเจ้าของร่วมกันในสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และการรุกตลาดเรียกรถรับส่ง

ที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์รายใหญ่สัญชาติเยอรมนีทั้ง 2 รายนี้ ต่างลงทุนในธุรกิจนี้ด้วยตัวเองมาแล้ว แต่มองเห็นช่องทางที่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าหากร่วมมือกัน

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว “คาร์ทูโก” แบรนด์ให้บริการเรียกรถรับส่งของเดมเลอร์ จะรวมกิจการเข้ากับ “ไดรฟ์นาว” “พาร์คนาว” “ชาร์จนาว”และ “แชร์นาว” ซึ่งเป็นบริการของบีเอ็มดับเบิลยู และทั้ง 2 บริษัทจะถือหุ้น 50% เท่ากันในบริษัทร่วมทุนใหม่นี้

ฮารัลด์ ครูเกอร์ ซีอีโอบีเอ็มดับเบิลยู ระบุว่า บริการทั้ง 5 ด้านนี้ จะควบรวมกันเพื่อให้เกิดพอร์ตบริการรถยนต์ ที่นำ รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนอัตโนม้ัติ ที่สามารถชาร์จไฟ และจอดรถได้ด้วยตัวเองมารวมไว้ในที่เดียวกัน

นอกจากนี้ ทั้ง 2 บริษัทยังอยู่ระหว่างการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของตัวเอง ในช่วงเวลาที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ กำลังร่วมมือกับคู่แข่งของตัวเองมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ตัวอย่างเช่น ฟอร์ด กับโฟล์กสวาเก้น ที่จับมือเป็นพันธมิตรกัน เช่นเดียวกับเมอร์เซเดส และเรโนลต์ นอกเหนือจากที่เรโนลต์ เป็นพันธมิตรกับนิสสันมาก่อนหน้านี้แล้ว

160315 em bmwridesharing

การผนึกกำลังที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มเป็นเจ้าของรถยนต์น้อยลง อย่างเช่นในเมืองซีแอตเติล สหรัฐ ที่เริ่มมองเห็นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2553 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษ 70 พอถึงปี 2558 ยอดการเป็นเจ้าของรถที่ลดลง ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากคนยุคมิลเลนเนียล เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะที่พัฒนาดีขึ้น ประกอบกับการมีบริการจากลิฟท์ และอูเบอร์ ยิ่งทำให้การซื้อรถยนต์เป็นของตัวเองไม่จำเป็นเหมือนในอดีตอีกแล้ว สถานการณ์ที่ทำให้ค่ายรถยนต์รายต่างๆ มีความวิตกกันมากขึ้น

การเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพ อย่าง อูเบอร์ และลิฟท์ ทำให้เกิดการปฏิวัติธุรกิจแท็กซี่ไปทั่วโลก ซึ่งบริษัทรถยนต์พยายามที่จะหาคำตอบให้ได้ว่า เทรนด์ใหม่นี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่ โดยเฉพาะกลุ่มคนอายุน้อยอย่างไรบ้าง และจะส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ในอนาคตอย่างไร

เดมเลอร์ และบีเอ็มดับเบิลยู ก็เหมือนกับค่ายรถยนต์รายอื่นๆ ที่ยังหารายได้จากการขาย และให้สินเชื่อกับผู้ซื้อรถยนต์ แม้จะมีผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนอายุน้อยจำนวนมากขึ้น ที่ละทิ้งการเป็นเจ้าของรถยนต์ในทันทีที่พวกเขาทำได้ โดยหันไปพึ่งพาบริการเรียกรถรับส่งผ่านแอพพลิเคชันแทน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ในเมือง และรอบๆ เมือง ที่มีระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ และมีทางเลือกในการเดินทางอื่นๆ

บริษัทรถยนต์ที่เป็นเจ้าของบริการแบบนี้ หรือถือหุ้นจำนวนมากในธุรกิจดังกล่าว สามารถดึงดูดลูกค้าประเภทนี้ไว้ได้ ด้วยการจัดหายานพาหนะให้ตามความต้องการของพวกเขา

กลยุทธ์ข้างต้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะฟอร์ด เจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ ก็ใช้วิธีนี้มานานหลายปี จากการเข้าถือหุ้นข้างมาก หรือเป็นเจ้าของบริษัทให้เช่ารถยนต์อย่าง เฮิร์ตซ์ เอวิส และทริฟตีย์ ซึ่งบริษัทรถยนต์เหล่านี้ สามารถถ่ายโอนกำลังผลิตที่ล้นเกินเข้ามาไว้ที่บริษัทให้เช่ารถยนต์เหล่านี้ได้ด้วย

ที่มา: Forbes

Avatar photo