Business

รัฐบาลโชว์ผลมาตรการเยียวยา สถานการณ์ความยากจนในไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

“อนุชา” เผยสถานการณ์ความยากจนในไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากนโยบายสำคัญรัฐบาล โดยเฉพาะมาตรการเยียวยาประชาชนทุกกลุ่ม 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการสำรวจของ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ความยากจนในประเทศไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 มีคนยากจนจำนวนทั้งสิ้น 4.4 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนคนยากจน 6.32% ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่มีสัดส่วนคนยากจน 6.83%

shutterstock 653070013

ในขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจำนวนครัวเรือนยากจนก็พบว่าในปี 2564 ครัวเรือนยากจนมีจำนวนทั้งสิ้น 1.24 ล้านครัวเรือน คิดเป็นสัดส่วน 4.79% ของครัวเรือนทั้งหมด ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่มีจำนวนครัวเรือนยากจนประมาณ 1.40 ล้านครัวเรือน

สาเหตุสำคัญที่สถานการณ์ความยากจนปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่เน้นพุ่งเป้าให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มผ่านโครงการต่าง ๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ รวมไปถึงกลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

ขณะที่รายงานสถานการณ์ความยากจน และความเหลื่อมล้ำล่าสุด ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุชัดว่า หากรัฐบาลไม่มีมาตรการเยียวยา จำนวนคนจนจะเพิ่มสูงขึ้นไปถึง 11 ล้านคน

ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติยังเผยให้เห็นว่า สถานการณ์การว่างงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 อยู่ที่ 5.5 แสนคน ปรับตัวลดลงจาก 6.08 แสนคนในไตรมาส 1 ของปี 2565 หรือลดลงประมาณ 5.8 หมื่นคน โดยได้รับอานิสงส์จากนโยบายการเปิดรับการเดินทางเข้าประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในบางสาขาเศรษฐกิจที่กลับมาดำเนินการได้มากขึ้น ส่งผลให้อัตราการว่างงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 อยู่ที่ 1.4% ของกำลังแรงงานรวม ลดลง 0.1% จากไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ซึ่งมีอัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.5 ของกำลังแรงงานรวม

อนุชา
นายอนุชา บูรพชัยศรี

“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจน ด้วยการแก้ไขปัญหาทั้งในแบบภาพรวม และแบบเจาะจงทั้งในระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยได้แก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นต้นตอของความยากจน 8 เรื่องสำคัญ เช่น

  • การแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
  • การกำหนดให้การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้เป็นวาระของประเทศ (เน้นสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และ SMEs)
  • การแก้ไขปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์
  • การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการ โดยเฉพาะครูและตำรวจ
  • การแก้ไขปัญหาบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล
  • การแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อยและ SMEs
  • การปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม เพื่อเอื้อให้เกิดการแก้ไขปัญหาหนี้สิน

พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังได้ดำเนินการนโยบาย การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้าแต่ละครัวเรือนอีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo