NTT DATA ชี้เทรนด์ Connected Car มาแรงพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิด 2 ความท้าทาย สร้างโอกาสชิงความได้เปรียบในตลาด
นายฮิโรนาริ โทมิโอกะ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เอ็นทีที เดต้า ได้จัดทำรายงาน Automotive Aftersales เกี่ยวกับบริการหลังการขายของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัล
จากรายงานพบว่า 47% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มเปลี่ยนแบรนด์รถยนต์ เมื่อมีทางเลือกเทคโนโลยีที่ดีกว่า รวมถึงเทคโนโลยี Connected Car เพื่อเชื่อมต่อยานยนต์เข้ากับอุปกรณ์การสื่อสารผ่านระบบเน็ตเวิร์ก เป็นการประยุกต์ใช้งาน Internet of Things (IoT) เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูล และควบคุมการทำงานของยานยนต์
ขณะเดียวกัน จะเป็นเทรนด์เทคโนโลยีเพื่อชิงความได้เปรียบในตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะในปัจจุบันโลกมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านอุปกรณ์การสื่อสารต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยี IoT
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต และการทำงานพื้นฐาน ทั้งยังสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทุกอุตสาหกรรม เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าและสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายอุตสาหกรรมรวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์
นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เกิดความร่วมมือ และสร้างพันธมิตรกับผู้ให้บริการโซลูชัน ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้อย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงในยุคของ Digital Transformation
จากรายงานของ Fortune Business Insights พบว่าปี 2563 ตลาดเชื่อมต่อยานยนต์กับระบบเครือข่าย ทั่วโลกมีมูลค่า 55.56 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเติบโตที่ 59.70 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2564 และคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2571 จะเติบโตเป็น 191.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
การเติบโตดังกล่าว มาจากหลากหลายปัจจัย อาทิ ความต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อสร้างความโดดเด่น และจุดแข็งสำหรับการแข่งขันในตลาด รวมไปถึงปริมาณอุบัติเหตุทางถนนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์จึงต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เอ็นทีที เดต้า มองเห็นความท้าทายในการก้าวข้ามจุดเปลี่ยนของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันเพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขัน ประกอบไปด้วย
1. การสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์รถยนต์ ไม่เพียงแค่การเป็นผู้ผลิตหรือจำหน่าย แต่ต้องคำนึงถึงการส่งมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าผ่านบริการเพื่อรักษาสถานะของลูกค้าให้คงอยู่
2. การบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูล โดยไม่ได้ผ่านการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ อาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงผลกระทบในฟังก์ชันการทำงานของตัวรถได้
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อยานยนต์ ยังสามารถช่วยให้ผู้ขับขี่ มีความปลอดภัย สะดวกสบายยิ่งขึ้น ในการตรวจสอบ บริหารจัดการ และควบคุมรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ รวมถึงเหตุการณ์รุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถยนต์และถุงลมนิรภัยทำงาน ระบบจะแจ้งเตือนไปยัง Call center อัตโนมัติเพื่อประสานงานให้ความช่วยเหลือ
ขณะที่ เอ็นทีที เดต้า ได้ร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ พัฒนาแอปพลิเคชัน โดยมีอุปกรณ์ควบคุมการรับส่งข้อมูลทางไกลในรถยนต์ (Telematics Control Unit: TCU) ที่ติดตั้งในรถยนต์ เพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานกับรถยนต์ผ่านแอปพลิชัน สามารถสั่งการได้จากระยะไกล
นอกจากนี้ เอ็นทีที เดต้า ยังคงพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันความก้าวหน้าให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เรายังส่งเสริมการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างเต็มที่ด้วยบริการ EV Charging Platform ที่สามารถบูรณาการเข้ากับรถยนต์ EV หรือการพัฒนาสถานีชาร์จ EV รวมถึงความต้องการในอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นายกฯ แก้หนี้ครัวเรือน ปรับปรุงสัญญาธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์-จักรยานยนต์
- ‘โออาร์-สลีค อีวี’ ร่วมศึกษาธุรกิจ ‘รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า’ หนุนใช้พลังงานสะอาด ตอบโจทย์สังคม-สิ่งแวดล้อม
- ถึงคิวผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เร่งปรับตัวรองรับกระแส ‘รถยนต์ไฟฟ้า’