Business

ยกเว้น ‘ภาษีเงินได้’ นักแสดงต่างชาติ 5 ปี หวังโกยรายได้ จากกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ

ยกเว้น ‘ภาษีเงินได้’ นักแสดงต่างชาติ 5 ปี หวังโกยรายได้ จากกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ปีละกว่า 3.5 พันล้าน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ว่า ที่ประชุมครม. มีมติอนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงฉบับที่.. (พ.ศ.)…. ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

ภาษีเงินได้

ดึงดูดกองถ่ายทำภาพยนตร์จากต่าประเทศ

เพื่อดึงดูดการลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ได้ไม่น้อยกว่า 3,500 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว ตามรอยภาพยนตร์และนักแสดงที่มีชื่อเสียงไปยังต่างประเทศทั่วโลก

สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงนี้คือ จะยกเว้นให้เงินได้ของนักแสดงภาพยนตร์ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศ ได้มาจากการแสดงภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่สร้างโดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และได้รับอนุญาตการสร้างตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของไทย ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้

โดยร่างกฎกระทรวงจะมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ โดยให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ภาษีเงินได้

มาตรการนี้จะเป็นการดึงดูดและจูงใจให้นักแสดงต่างชาติ และกองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติ มาใช้สถานที่ถ่ายทำในประเทศไทย นอกจากจะได้ประโยชน์ทาง soft power ที่ผู้ชมภาพยนตร์ทั่วโลกจะได้รู้จักสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบาย ที่รัฐบาลสนับสนุนตามยุทธศาสตร์ชาติในการสร้างรายได้ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อส่งเสริมการจ้างงานในธุรกิจการผลิตภาพยนตร์ กระตุ้นการบริโภคและการใช้จ่าย

ภาษีเงินได้

ได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การยกเว้นการจัดเก็บภาษี เงินได้ 10% จากนักแสดงภาพยนตร์ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศ กรณีที่มีการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศนั้น คาดว่าจะเป็นมูลค่าปีละประมาณ 14.35 ล้านบาท  แต่ประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์ทางตรง จากการลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ได้ไม่น้อยกว่าปีละ 3,500 ล้านบาท

ยังไม่นับผลประโยชน์ทางอ้อมจากการถ่ายทอดความรู้-บุคลากรอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ศิลปวัฒนธรรมไทยกับต่างประเทศ รวมถึงผลประโยชน์จากการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศผ่านภาพยนตร์ นักแสดงและบุคคลที่มีชื่อเสียงของวงการภาพยนตร์ต่างประเทศ

ซึ่งทางกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการนี้ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเวศ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์กับประเทศในระยะยาวต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo