Business

เริ่มแล้ว ‘สิทธิบัตรทอง’ รับยาได้ที่ร้านขายยา สังเกตสัญลักษณ์ ‘ร้านยาชุมชนอบอุ่น’

สปสช.-สภาเภสัชกรรม-กทม.ดัน “ร้านยาชุมชนอบอุ่น” คัดกรอง 13 โรคพื้นฐาน ติดตามอาการทุก 3 วัน “สิทธิบัตรทอง” รับยาได้เลย

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม เยี่ยมชมร้านยาฟาร์มาสโตร์ รัชโยธิน ที่ ซ.พหลโยธิน 35 เขตจตุจักร หนึ่งในร้านยาคุณภาพรูปแบบใหม่ ที่ร่วมให้บริการสุขภาพเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ พื้นที่กรุงเทพฯ

สิทธิบัตรทอง

สำหรับโครงการ ร้านยารูปแบบใหม่ Common illness เป็นร้านยาคุณภาพที่ใกล้ชิดกับประชาชน โดยร้านดังกล่าวเป็นหนึ่งในร้านที่สมัครเข้าร่วมหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายสปสช. ที่เภสัชกรจะสามารถให้คำแนะนำกับประชาชนที่มีอาการ หรือเจ็บป่วยเบื้องต้น หรือส่งต่อไปยังแพทย์เชี่ยวชาญในเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ ตามสิทธิของผู้ป่วยบัตรทองได้ด้วย

ทั้งนี้ ร้านยารูปแบบใหม่ดังกล่าว จะมีสัญลักษณ์ ร้านยาชุมชนอบอุ่น หรือ ร้านยาให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ติดป้ายเอาไว้ที่หน้าร้านยา ซึ่งจะมีบริการมากกว่าร้านยาทั่วไป โดยมีทั้งการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ให้คำปรึกษาด้านการใช้ยาและเวชภัณฑ์ พร้อมทั้งติดตามดูแลอาการโรคเบื้องต้น สำหรับประชาชนทุกสิทธิการรักษา

สำหรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง จะได้รับบริการยา และเวชภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกัน ร้านยาชุมชนอบอุ่น จะมีเภสัชกรบริการแจกยาคุมกำเนิด และถุงยางอนามัย พร้อมทั้งให้คำแนะนำเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย

ในปีงบประมาณ 2566 สปสช. ยังเพิ่มบริการในร้านยาอบอุ่น และเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิให้มากขึ้น รวมถึงแจกยาคุมฉุกเฉิน เพิ่มบริการตรวจดูการตั้งครรภ์ผ่านแผ่นตรวจปัสสาวะ บริการยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิก รวมถึงบริการคัดกรองปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

ร้านยา

เราพบว่า พฤติกรรมของประชาชน ส่วนใหญ่หากไม่ป่วยมาก จะเลือกไปร้านยามากกว่าโรงพยาบาล ร้านยาจึงมีความสำคัญในฐานะด่านแรกในการบริการผู้ป่วย

ปัจจุบันมีร้านยาเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการปฐภูมิแล้วมากกว่า 200 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และสปสช. พยายามสร้างเครือข่ายร้านยาชุมชนอบอุ่นให้มีบริการสุขภาพที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก และไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ร้านยาเป็นอีกกลไกสำคัญ ที่เติมเต็มระบบบริการปฐมภูมิในกรุงเทพฯ ให้สมบูรณ์มากขึ้น เพราะใกล้ชิดประชาชน มีความสะดวกไปรับบริการมากว่าไปโรงพยาบาล

อีกทั้ง เมื่อร้านยาทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกับหน่วยอื่น ๆ ในพื้นที่ ทั้งศูนย์บริการสาธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น รวมถึงหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะ ก็จะทำให้มีช่องทางที่ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพในกรุงเทพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ กทม. มีศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุขสาขาอีก 73 แห่ง เมื่อรวมกับคลินิกชุมชนอบอุ่น ตลอดจนหน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะทาง เช่น ร้านยา คลินิกทันตกรรม คลินิกเวชกรรม จะทำให้มีหน่วยบริการปฐมภูมิรวมแล้ว 700 แห่ง เพื่อดูแลคนกรุงเทพฯ

สปสช.

ด้าน ภญ.ปาริชาติ ธัมมรติ เภสัชกรประจำร้านยาฟาร์มาสโตร์ รัชโยธิน กล่าวว่า การบริการร้านยาคุณภาพรูปแบบใหม่ Common illness หรือโรคเบื้องต้น จะบริการตรวจอาการ และให้คำแนะนำโรคเบื้องต้นพื้นฐาน 13 กลุ่มโรคกับผู้ป่วยที่มาร้านยา ซึ่งเป็นโรคที่คนไข้หรือผู้ป่วยมักมาซื้อยาที่ร้านขายยา เช่น ไข้หวัดแบบติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ โรคท้องเสีย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการผื่นตามผิวหนัง เป็นต้น

ในส่วนของขั้นตอนการให้บริการจะมี 2 รูปแบบ คือ 1. คนไข้ติดต่อไปยัง สปสช. จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำให้รับบริการที่ร้านยาคุณภาพใกล้บ้าน 2. หากผู้ป่วยมาที่ร้านยาเอง เภสัชกรจะคัดกรองสิทธิคนไข้ว่าได้รับบริการตามสิทธิ์บัตรทองหรือไม่ หากมีสิทธิก็รับยาตามอาการพร้อมคำแนะนำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือแนะนำให้พบแพทย์ ในกรณีที่พบว่ามีอาการที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์

นอกจากนี้ เภสัชกรจะติดตามอาการของผู้ป่วยในวันที่ 3 ของการรักษา หรือที่ได้จ่ายยาให้กับผู้ป่วยทุกราย และร้านยาคุณภาพจะการจ่ายยาโดยพิจารณาจากอาการ ซึ่งเป็นการใช้ยาสมเหตุผล เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo