Business

กระทรวงยุติธรรม ยก ‘ซีพีเอฟ’ เป็น ‘องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน’ ระดับดีเด่น ปี 65

กระทรวงยุติธรรม ยก ‘ซีพีเอฟ’ เป็น ‘องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน’ ระดับดีเด่น ประจำปี 2565

วันที่ 19 กันยายน 2565 กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มอบรางวัล  “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน” ระดับดีเด่น ประจำปี 2565  (Human Rights Awards 2022) ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ตอกย้ำองค์กรที่มีความโดดเด่นและเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับภาคธุรกิจไทย ในการนำหลักการสิทธิมนุษยชนมาเป็นพื้นฐานในการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมความเสมอภาคและยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย พร้อมขยายผลต่อยอดไปยังองค์กรพันธมิตรธุรกิจและสังคม

ซีพีเอฟ

โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบโล่รางวัล แก่นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน และนางสาวธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ ซีพีเอฟ เป็นผู้แทนบริษัทฯ รับมอบโล่รางวัล  ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่

ซีพีเอฟ

สิทธิมนุษยชน หนึ่งในความมุ่งมั่น ขับเคลื่อนพัฒนาองค์กร

นางสาวพิมลรัตน์  รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ กล่าวว่า สิทธิมนุษยชน เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนของบริษัทฯ  ภายใต้กลยุทธ์ CPF 2030 Sustainability in Action บริษัทฯ มีการดำเนินกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ และเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับการบริหารความแตกต่างและการยอมรับความหลากหลาย มีการปฏิบัติต่อบุคลากรและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ปราศจากการเลือกปฏิบัติ

รวมทั้งถ่ายทอดและต่อยอดความรู้และประสบการณ์ การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนให้กับกลุ่มคู่ค้าธุรกิจ และเกษตรกรในห่วงโซ่อุปทาน มีหลักปฏิบัติที่ดีต่อแรงงาน โดยมีการตรวจประเมินสถานะด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อลดความเสี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชนและบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งมีการทบทวนอย่างเป็นรูปธรรม

ซีพีเอฟ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งระดับประเทศและระดับสากล เพื่อร่วมส่งเสริมให้พนักงานทุกคนและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในการยกระดับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนในอุตสาหกรรมอาหารและสังคมโดยรวม  สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ

การได้รับรางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนดีเด่น” ประจำปี 2565 สะท้อนถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีให้องค์กรอื่นๆ ในการนำหลักสิทธิมนุษยชนมาบูรณาการการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งเป็นไปตามหลักปรัชญา “3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน” ของบริษัทฯ

และมีความโดดเด่นในการนำศักยภาพของบริษัทฯ ช่วยสร้าง “ความมั่นคงด้านอาหาร” ให้กับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในภาวะวิกฤติ รวมทั้ง เคียงข้างองค์กรพันธมิตรธุรกิจให้สามารถเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนไปด้วยกัน

ซีพีเอฟ

UN SDGs กลยุทธ์ด้านงานทรัพยากรบุคคล

บริษัทฯ ได้ผนวกเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UN SDGs) เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านงานทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะประเด็นความเท่าเทียม บริษัทฯ มีนโยบายและแนวทางปฏิบัติในการเสริมสร้างบรรยากาศในการทำงานและเคารพซึ่งกันและกัน การยอมรับความแตกต่าง ไม่เลือกปฏิบัติ  ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงาน และป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดและคุกคามในทุกรูปแบบ

เช่น บริษัทฯ ส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกกลุ่มในการแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เรื่องร้องเรียน ผ่านการเลือกตั้งคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการ ครอบคลุมถึงกลุ่มเปราะบางในมิติทางเพศ สัญชาติ ศาสนา และความทุพพลภาพ สนับสนุนให้ทุกสถานประกอบการของบริษัทฯ จัดตั้งห้องนมแม่ การจัดตั้งชมรมพนักงาน LGBTQ+  เป็นต้น

และยังขยายขอบเขตการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน ให้ครอบคลุมไปถึงกลุ่มคู่ค้าธุรกิจและเกษตรกร ในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ อีกด้วย

ซีพีเอฟ

นอกจากนี้ CPF ยังสานต่อร่วมมือกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (Labour Protection Network Foundation : LPN) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนภายในองค์กร พนักงานทุกคนตระหนักและเข้าถึงสิทธิของตนอย่างเสมอภาค และดำเนินโครงการศูนย์รับฟังเสียงพนักงาน Labour Voices Hotline by LPN” ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พนักงานทุกคน มีองค์กรที่เป็นกลางรับฟังเสียงจากพนักงาน ซึ่งนำไปสู่การสร้างเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานทุกคน มุ่งสู่ชีวิตที่มีคุณภาพและเสถียรภาพในชุมชนและสังคมในภาพรวมสืบไป

HumanAward2022 2

ภารกิจดูแลพนักงาน-สังคม ช่วงสถานการณ์โควิด

นางสาวพิมลรัตน์ กล่าวเสริมว่า ในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ สร้างความเชื่อมั่นกับพนักงานทุกคน โดยมีนโยบายไม่เลิกจ้างเหตุจากโควิด-19 รวมทั้งดูแลให้พนักงานทุกคนปลอดภัยและเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึง ทั้งพนักงานคนไทยและต่างชาติ

พร้อมทั้งได้นำความเชี่ยวชาญดำเนินโครงการต่างๆ ช่วยสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับสังคม และดูแลกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” เพื่อส่งมอบอาหารให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไป รวมถึงกลุ่มคนเปราะบาง คนพิการ แรงงานข้ามชาติ และผนึกพลังกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ ดำเนินโครงการ “ครัวปันอิ่ม” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าอาหารรายย่อย และดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบางให้ได้เข้าถึงอาหารอย่างเพียงพอในราคาที่เข้าถึงได้

group CPF humanrightaward

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการ Faster Payment” เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับกลุ่มคู่ค้าธุรกิจ SME กว่า 6,500 ราย ให้สามารถรักษากิจการและลูกจ้างก้าวผ่านภาวะวิกฤติไปได้

และในปี 2565 นี้ บริษัทฯ ยังขยายผลดำเนินโครงการ CPF x BBL เสริมสร้างสภาพคล่อง เคียงข้างคู่ค้า” สนับสนุนคู่ค้าธุรกิจรวมถึงกลุ่ม SME กว่า 10,000 ราย ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน สนับสนุนและเสริมโอกาสให้คู่ค้าธุรกิจเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo