“กอบศักดิ์” เปิดเหตุผลตลาดยังร่วง หลังประกาศข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ ทั้งที่เป็นข่าวดี แต่นักลงทุนคาดผิด
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประเมินสถานการณ์ตลาด หลังประกาศข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ โดยระบุว่า
ช่างเอาใจยากยิ่งนัก!!
ระเนระนาดกันอีกรอบ
ปกติแล้ว เราไม่ค่อยได้เห็น Dow Jones ติดลบระหว่างวันมากกว่า-1,300 จุด
ครั้งที่แล้วที่เกิดขึ้น ก็เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่เมื่อวานนี้ หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐประกาศออกมา ตลาดต่าง ๆ ก็เข่าอ่อน
Bitcoin ลดลง 10.0% หรือลดลง 2,250 ดอลลาร์ ลงมาอยู่ที่ 20,150 ดอลลาร์/เหรียญ
Nasdaq ลดลง 5.2% หรือ 633 จุด
Dow ลดลง 3.9% หรือ 1,276 จุด
ทองคำลดลงมาต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์
ค่าเงินสกุลต่าง ๆ อ่อนยวบ ทั้ง ยูโร เยน ปอนด์ ดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ บางสกุลเงินอ่อนค่าลง -2% ในข้ามคืนเดียว
ขณะที่ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงไปแตะ 107.7 ก่อนรายงานดังกล่าวออกมา
ล่าสุด กลับไปที่ใกล้ ๆ 110 อีกรอบ
ความผันผวนทั้งหมดนี้ เป็นเพราะข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมา เพียงอย่างเดียว
ส่วนที่บอกว่า ช่างเอาใจยากยิ่งนัก ก็เพราะข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมานั้น โดยรวมแล้ว ถือว่าเป็น ข่าวดี ลดจาก 8.5% มา 8.3% แม้จะดื้อแพ่ง ไม่ยอมลงมามาก อย่างที่คาดกันไว้ที่ 8.1%
ตลาดจึงไม่ชอบใจ ยังคิดว่า ดีไม่พอ ร่วมใจกันเทสินทรัพย์ต่าง ๆ อีกรอบ
แต่จากมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ ต้องบอกว่า การปรับตัวของเงินเฟ้อสหรัฐ กำลังเป็นไปในทิศทางที่เรียกว่า Right Direction ลงต่อเนื่อง ไม่เพิ่มขึ้นไปเหมือนกรณียุโรป
นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแค่ 0.1% ไม่ใช่ 1.0-1.3% เช่นในช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน จากการลดลงของราคาน้ำมันที่ปั๊มในสหรัฐ โดยเฉพาะ Gasoline ที่ลดลง 10.6% และ Fuel Oil ลดลง 5.9% เข้ามาช่วย
จะมีก็เพียง เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 5.9% มาที่ 6.3% (YoY) และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เพิ่มขึ้นที่ 0.6% จากการเพิ่มขึ้นของราคาในหมวดรถยนต์ใหม่ (+0.8%) ที่อยู่อาศัย (+0.7%) และบริการการแพทย์ (+0.8%)
แต่เมื่อดูโดยละเอียดแล้ว ต้องบอกว่า การเพิ่มขึ้นของเดือนล่าสุด ใกล้เคียงกับช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 0.6-0.7%
ไม่น่ากังวลใจมาก เพราะหมวดที่เป็นตัวดึงขึ้นเหล่านี้ เมื่อเศรษฐกิจชะลอลง ก็จะไม่เพิ่มในอัตรานี้
นอกจากนี้ โดยปกติแล้ว การปรับตัวของเงินเฟ้อ จะเริ่มที่ Headline Inflation ก่อน
พอเงินเฟ้อตัวรวมลงมาระยะหนึ่ง เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามในช่วงต่อไป
จึงกล่าวได้ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเมื่อคืนนี้ ถือว่า เป็นข่าวดี ช่วยย้ำว่า เงินเฟ้อน่าจะ Peak ในช่วงปลายปีนี้ ตามที่คาดกันไว้
แต่ที่ตลาดลงมาระเนระนาดอีกรอบ ปัญหาอยู่ที่นักลงทุน คาดไว้ผิด พยายามเดาทางเฟด ว่าเฟดคงจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแรง
ปลอบใจกัน พยายาม Convince กันเองว่า ถ้าเงินเฟ้อ ลงมาเร็ว เฟดก็จะขึ้นดอกเบี้ยไป 4% นิด ๆ แล้วก็จะจบรอบ
ครั้นพอเห็นเงินเฟ้อดื้อแพ่ง ลงมาช้า ๆ ก็เลย กลัวใจเฟด กลัวว่าเฟดจะต้องใช้ยาแรง ขึ้นดอกเบี้ยไปอีก มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้ที่ตลาดเคยคิดกันว่า ปลอดภัยแล้ว ลงทุนได้แล้ว อาจจะไม่จริง ทำให้นักลงทุนต้องแย่งกันออกอีกรอบ
ซึ่งในช่วงต่อไป เรื่องในลักษณะนี้ คงเกิดขึ้นอีกเป็นระยะ ๆ เพราะเงินเฟ้อสหรัฐที่ 8-9% ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกลับมาที่ 2% และดอกเบี้ย 4% ไม่มีทางที่จะเอาเงินเฟ้อที่สูงขนาดนั้นอยู่
คิดง่าย ๆ ไฟโหมทั้งป่า มีรถดับเพลิงแค่ 2-3 คัน คงยากจะดับได้ ดอกเบี้ยที่เฟดจะต้องขึ้นไปนั้น ยังอีกมากพอสมควร อย่างน้อยต้องมากกว่า 5% ขึ้นไป
โดยทุกๆ 6-8 สัปดาห์ หลังประชุมเสร็จ เฟดจะส่งสัญญาณเพิ่มว่า ดอกเบี้ยที่ขึ้นมานั้น ยังไม่พอ ยังไม่จบรอบ เงินเฟ้อที่เริ่มลง ยังลงมาไม่มากพอ เฟดยังนอนใจไม่ได้ ยังต้องสู้ต่อไป
ทำให้นักลงทุนที่พยายามเก็งว่า เฟดจะจบรอบแล้ว ถูก Surprise เป็นระยะ ๆ จนกระทั่ง เฟดเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.75% มาที่ 0.5% มาที่ 0.25% และเฟดคิดว่าพอแล้ว ตลาดก็จะสงบขึ้น
แต่ถึงจุดนั้น ตลาดก็จะต้องเรียนรู้อีกรอบว่า พอขึ้นดอกเบี้ยสูงพอแล้ว ไม่ได้หมายความว่า ดอกเบี้ยจะลงทันที เฟดคงต้องแช่ยา แช่ดอกเบี้ยไว้ระดับสูง นานกว่าที่ตลาดคาด
เพื่อสยบเงินเฟ้อให้ได้ ทำให้เกิดความผันผวนในตลาด ดัชนีขึ้นลงเป็นระลอก ๆ
ขึ้นจากการคาดการณ์ดีเกิน และลงจากการต้องปรับตัวรับข่าวจากเฟด
ตลาดคงเป็นอย่างนี้ไปอีกระยะ ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กอบศักดิ์’ คาดเศรษฐกิจไทยปี 66 ขยายตัว 3-4% สั่งเกาะติด 7 ปัจจัยสำคัญ!
- ‘กอบศักดิ์’ ห่วงวิกฤติตลาดเกิดใหม่ รอวันปะทุเป็นวิกฤติ ซ้ำรอยศรีลังกา
- ยุคดอกเบี้ยขาขึ้น.. จะขึ้นไปถึงไหน !! ‘กอบศักดิ์’ มีคำตอบ