รัฐบาล ขยาย ‘วงเงินค้ำประกัน’ เพิ่ม 50,000 ล้านบาท เติมสภาพคล่อง ‘SME’ หนุน BCG Model ดอกเบี้ยต่ำ
วันที่ 9 กันยายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เริ่มบรรเทาลง ส่งผลให้ภาคธุรกิจบางสาขาเริ่มส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัว
แต่ยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs) รวมทั้ง ผู้ประกอบการรายย่อย ที่ยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างเพียงพอ
ช่วยผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินทุน ประโยชน์ 3 เด้ง
รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญต้องการให้ผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างทั่วถึง และมีสภาพคล่องที่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความเห็นชอบการขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อภายใต้ พ.ร.ก.ฟื้นฟู ระยะที่ 2 อีกจำนวน 50,000 ล้านบาท ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันเต็มวงเงินสินเชื่อ ผ่านมาตรการ “บสย.พร้อมช่วย”
ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจที่กำลังก้าวสู่การเปลี่ยนผ่าน และการเปิดประเทศ สู่ BCG Model ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ค่าธรรมเนียมค้ำประกันถูก เพียง 3% ใน 2 ปีแรก และยังค้ำประกันเต็มวงเงิน
ทั้งนี้ จะสามารถช่วยผู้ประกอบการได้รับประโยชน์มากถึง 3 ต่อ ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ 2% ใน 2 ปีแรก (รัฐชดเชยดอกเบี้ย 6 เดือนแรก)
- ค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ 1% ใน 2 ปีแรก
- บสย. พร้อมค้ำประกันสินเชื่อแบบเต็มวงเงิน
ส่วนระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 – วันที่ 9 เมษายน 2566 (ตามกรอบระยะเวลาของธนาคารแห่งประเทศไทย)
กลุ่มเป้าหมาย BCG Model
กลุ่มธุรกิจเป้าหมายภายใต้ BCG Model ที่ได้รับการสนับสนุน ได้แก่ กลุ่มดิจิทัลเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจ กลุ่มที่กำลังปรับไปสู่กระบวนการผลิต และบริการแบบออโตเมชั่น กลุ่มธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม ระบบประหยัดพลังงาน พลังงานทดแทน และพลังงานสะอาด กลุ่มธุรกิจที่พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในรูปแบบ Zero waste และกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมที่เสริมความสามารถในการแข่งขัน
นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มดี และผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น มีสภาพคล่องที่เพียงพอและสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดช่อง SMEs เพิ่มโอกาสเป็น ‘คู่ค้ากับรัฐ’ เข้าถึงสิทธิประโยชน์ การขึ้นทะเบียน THAI SME-GP
- ‘SME s Pro-active’ สร้างจุดแข็งให้ ‘SMEs ส่งออก’ ขยายมูลค่าในตลาดโลก
- ‘บสย. พร้อมช่วย’ แนะ SM Es ‘ปรับโครงสร้างหนี้’ ลดผลกระทบดอกเบี้ยขาขึ้น