Business

โฆษณาเริ่มไร้ผล TikTok ชี้ ‘Shoppertainment’ มาแรง แนะแบรนด์ปรับด่วน เพิ่มโอกาสสร้างรายได้

TikTok เผย Shoppertainment มาแรงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและประเทศไทย คาดปี 2568 สร้างโอกาสมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ แนะแบรนด์อย่าตกขบวน

TikTok และ Boston Consulting Group (BCG) เผยผลการวิจัยล่าสุดในตลาดเอเชีย-แปซิฟิก เกี่ยวกับ Shoppertainment หรือเทรนด์การจับจ่ายซื้อของผ่านการรับชมคอนเทนต์ที่มอบความบันเทิงให้แก่นักช้อป ว่าเป็นโอกาสที่สำคัญและน่าจับตามอง โดยคาดการณ์ว่าจะสร้างมูลค่าราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ ให้กับแบรนด์ต่างๆ ภายในปี 2568

TikTok

การศึกษาดังกล่าวจัดทำขึ้นภายใต้ชื่อ Shoppertainment: โอกาสมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ของเอเชีย-แปซิฟิก โดยสำรวจตลาดทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อันรวมถึง ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

ผลการศึกษาพบว่า เทคโนโลยีได้สร้างทางเลือกมหาศาล จนผู้บริโภคกระหายที่จะแสวงหาการค้นพบใหม่ๆ ข้อมูลที่แท้จริง/ถูกต้อง และมุมมองวิสัยทัศน์ที่ได้รับการผลักดันจากคอมมูนิตี้ นับเป็นการประตูสู่ยุคอีคอมเมิร์ซใหม่ของ Shoppertainment อย่างแท้จริง

สำหรับ Shoppertainment คือ การตัดสินใจซื้อ/การซื้อขาย ที่ขับเคลื่อนด้วยเนื้อหา ที่ผสานการสร้างความบันเทิงและให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเป็นหลัก โดยผสานและสร้างสรรค์คอนเทนต์เข้ากับคอมมูนิตี้ เพื่อให้เกิดประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าที่น่าประทับใจ

ขณะที่ BCG คาดการณ์ว่าตลาด Shoppertainment จะเติบโตถึง 63% ต่อปี เมื่อเทียบอัตราการเติบโตโดยรวมต่อปี (CAGR) สำหรับตลาดที่รวมอยู่ในรายงาน และจะเติบโตสูงสุดในอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

พฤติกรรมการซื้อของของผู้บริโภค กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และผู้คนต่างมองหาความพึงพอใจในโลกออนไลน์ เนื่องจากไม่มีใครอยากถูกขายตรง แต่ทุกคนยินดีที่จะซื้อเมื่อได้รับความบันเทิง

นี่เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจ ที่จะสร้างสรรค์คอนเทนต์เป็นหลัก เพื่อเป็นแบรนด์ที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิงแก่ผู้ชม ด้วยการผสมผสานระหว่างเนื้อหา วัฒนธรรม และการค้าอย่างไร้รอยต่อ ทำให้แบรนด์สามารถมีส่วนร่วมกับผู้ชมตลอดการซื้อขายโดยไม่ต้องนำเสนอการขายมากเกินไป

6. ผู้ขายนิยมใช้ขายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทาง Social Commerce 3

เทรนด์เส้นทางการซื้อสินค้าออนไลน์

รู้สึกเฉื่อยชาเกินกว่าจะทำการตัดสินใจซื้อ

ผลสำรวจพบว่า 26% ของผู้บริโภคต้องการเวลามากขึ้นในการตัดสินใจซื้อ และ 46% จะตัดสินใจซื้อในวันอื่น
มีเส้นทางการซื้อที่กระจัดกระจายจนไม่สามารถโฟกัสได้

นอกจากนี้ 89% ของผู้บริโภคจะหาข้อมูลทั้งในและนอกแพลตฟอร์มที่ตัวเองกำลังใช้อยู่ โดย 63% จำเป็นต้องได้รับชมคอนเทนต์ 3-4 ครั้งถึงจะซื้อ และ 85% ของผู้บริโภคจะท่องไปในหลายแพลตฟอร์มก่อนจะตัดสินใจซื้อจริง

มีข้อกังขาเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ยัดเยียดความเป็นแบรนด์มากเกินไป

ผู้บริโภค 34% ไม่ไว้วางใจเนื้อหาที่มีความเป็นแบรนด์มากเกินไปจนรู้สึกว่าถูกยัดเยียด จนตัดสินใจไม่ซื้อแบรนด์นั้นๆ

ความต้องการใช้งาน

ประเด็นนี้ คิดเป็น 60% ของการซื้อขายจากผู้บริโภคทั้งหมด โดยกลุ่มนี้มักซื้อตามความเคยชิน เน้นที่สินค้าและบริการที่คุ้นเคย หรือใช้อยู่แล้ว โดยไม่ได้พิจารณาถึงทางเลือกใหม่ ๆ

แบรนด์ควรมองหาโอกาสจากกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้ โดยการอำนวยความสะดวกในการซื้อ พัฒนาสินค้าและบริการอยู่เสมอ และสร้างความมั่นใจว่าสินค้าและบริการจากแบรนด์ คือตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุดแล้ว

ความต้องการด้านอารมณ์

พบว่า ประมาณ 40% ของการซื้อขายทั้งหมด เกิดจากความต้องการด้านอารมณ์ของผู้บริโภค โดยเป็นพื้นที่ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและโอกาสให้กับแบรนด์ เพราะผู้บริโภคจะพิจารณาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ และมีแนวโน้มที่จะเปิดรับ และเปลี่ยนใจไปหาแบรนด์ใหม่ได้เช่นกัน

โอกาสที่แบรนด์จะเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้คือ การให้คำแนะนำที่โปร่งใส เชื่อถือได้ การเปิดโอกาสให้ซื้อตามความต้องการ และการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคค้นพบสินค้าและแบรนด์ใหม่ ๆ

shutterstock 2029874339

ให้ “ความบันเทิง” เป็นหัวใจของการค้าขาย

แม้อารมณ์ความรู้สึกของผู้บริโภคจะแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด แต่มีการคาดการณ์ว่า Shoppertainment มีแนวโน้มจะเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้น ในตลาดอีคอมเมิร์ซโดยรวม

งานวิจัยเผยให้ทราบว่า ผู้บริโภคในเอเชีย-แปซิฟิก คาดหวังว่า แบรนด์ต่าง ๆ จะมอบความบันเทิงให้ก่อนที่จะเริ่มนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือเส้นทางนำไปสู่การซื้ออย่างเป็นธรรมชาติ กล่าวคือ มีกระบวนการสร้างการตระหนักรู้ในสินค้า กระตุ้นความต้องการและเปลี่ยนความต้องการนั้นเป็นการซื้อแบบไร้รอยต่อ

ความสนุกและความบันเทิง

81% ของผู้บริโภคคาดหวังว่า จะเห็นคอนเทนต์ที่เน้นเล่าเรื่อง และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก่อน และ 76% ของผู้บริโภคสนใจคอนเทนต์ที่เน้นภาพเคลื่อนไหวเป็นหลัก โดยการนำเสนอในลักษณะนี้ สามารถทำได้ผ่านความร่วมมือกับฝ่ายต่าง ๆ อาทิ อินฟลูเอนเซอร์ ช่องทีวี livestream หรืออีเวนท์ออนไลน์สด เป็นต้น

น่าเชื่อถือและแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร

71% ของผู้บริโภคเห็นว่า ข้อมูลจริงและถูกต้อง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เนื้อหาดึงดูดน่าสนใจ ทั้งนี้ แบรนด์สามารถสร้างบรรยากาศอารมณ์ที่จริงแท้เกี่ยวกับแบรนด์ได้ ด้วยการนำเสนอข้อมูลรีวิวสินค้า/บริการที่น่าเชื่อถือ และสร้างพื้นที่ให้ผู้บริโภคได้มาสนทนากันเหมือนคนในชุมชนได้อย่างเปิดเผยและน่าสนใจ ในรูปแบบที่กระตุ้นให้ชุมชนตื่นตัวกับการนำผลิตภัณฑ์มารีวิวหรือถ่ายวิดีโอแกะกล่องสินค้า

แรงบันดาลใจและอิสระในการเลือกซื้อหรือตัดสินใจ

71% ของผู้บริโภคคาดหวังว่า แบรนด์จะไม่บังคับให้ตัดสินใจซื้อ ในระหว่างที่นำเนื้อหามาดึงดูดตนเอง ด้วยเหตุนี้ แบรนด์จึงควรเน้นนำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับความสนใจ และงานอดิเรกของผู้บริโภค มุ่งสร้างความรู้สึกที่ดี หรือระลึกถึงความหลังในรูปแบบที่กระตุ้นความตื่นเต้น และธีมที่น่าสนใจ พร้อมสร้างความสุขความเบิกบานใจแทน

shutterstock 1578853621

เทรนด์และคอมมูนิตี้

65% ของผู้บริโภค อยากได้คำแนะนำ หรือข้อเสนอแนะที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับแบรนด์จากโลกอินเทอร์เน็ต ดังนั้น แบรนด์ควรให้ความสำคัญกับเสียงของผู้เชี่ยวชาญในคอมมูนิตี้ออนไลน์ และอำนวยความสะดวกให้เพื่อน และผู้ใช้งานได้คุยกันเกี่ยวกับแบรนด์

สำหรับประเทศไทย Shoppertainment มีโอกาสเติบโตสูงถึง 54% และมีมูลค่าสูงขึ้นจาก 3,400 ล้านดอลลาร์ เป็น 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 ในประเทศไทย ซึ่งจะกำหนดสูตรความสำเร็จใหม่ ๆ สำหรับแบรนด์ได้

ตลาดแฟชั่นและเครื่องประดับ ความงามและของใช้ส่วนตัว อาหารและเครื่องดื่ม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กลายเป็นหมวดหมู่ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ Shoppertainment ในประเทศไทย โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่ง คือ 55% ของมูลค่าตลาดทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้สำหรับ Shoppertainment

นอกจากนี้ หมวดหมู่ยอดนิยม 3 อันดับแรกที่เน้นด้าน Shoppertainment ในประเทศไทย ได้แก่ แฟชั่นและเครื่องประดับ 18% รองลงมาคือความงามและของใช้ส่วนตัว 17% และอาหารและเครื่องดื่ม 13%

Shoppertainment ถือเป็นกลยุทธ์ที่เพอร์เฟคสำหรับแบรนด์ ในการจุดประกายความต้องการซื้อของผู้บริโภคขึ้นมาที่ถูกขับเคลื่อนด้วยพลังของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยการเชื่อมโยงปณิธานของแบรนด์เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo