“เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์” ลาออก กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) มีผล 1 กันยายน 2565 เผยมีปัญหาสุขภาพ ขณะผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ส่งสัญญาณดี ขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อน
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จากการประชุมคณะกรรมการ บมจ.อสมท ครั้งที่ 11/2565 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 มีมติรับทราบ การขอลาออก จากตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ของ รองศาสตราจารย์เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565
ลาออก ผอ.อสมท
ทั้งนี้ การลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของ รองศาสตราจารย์เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ ไม่ส่งผลกระทบต่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจของ บมจ.อสมท แต่อย่างใด โดย บมจ.อสมท จะเร่งดำเนินการ สรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ต่อไป
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในการประชุมครั้งที่ 13/2564 วันที่ 27 ตุลาคม 2564 ได้มีมติเลือกตั้ง รองศาสตราจารย์ เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ ผู้อำนวยการใหญ่ เข้ารับตำแหน่ง กรรมการ แทนนายเขมทัตต์ พลเดช
ผลประกอบการส่งสัญญาณดี ขาดทุนลดลง
ขณะเดียวกันรศ. เกษมศานต์ เปิดเผยว่า บมจ.อสมท รายงานงบการเงินไตรมาส 2 (เมษายน – มิถุนายน 2565) มีรายได้รวม จำนวน 354 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าการดำเนินงานมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดยขาดทุนสำหรับงวด จำนวน 11 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า 74% โดยธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน สร้างรายได้สูงสุดให้กับ บมจ. อสมท ในไตรมาสนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564
เนื่องจากมีผู้ใช้บริการโครงข่ายฯ เพิ่มขึ้น คือ T Sports 7 ช่อง หมายเลข 7 โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์ประเทศด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ รายได้เพิ่มขึ้น 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 จากส่วนแบ่งรายได้โฆษณาผ่าน Social Platform (YouTube และ Facebook) ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนรายได้จากการเป็นผู้จัดจำหน่าย content ในแพลตฟอร์มอื่นทั้งในและต่างประเทศ (Content Business) และรายได้จากการขายสินค้า (Shop Mania) ตลอดจนรายได้จากการให้เช่าใช้ทรัพย์สิน (ห้องสตูดิโอและห้องควบคุมออกอากาศ) ส่วนธุรกิจโทรทัศน์ และ ธุรกิจวิทยุ มีรายได้ลดลงตามสถานการณ์ตลาด ที่มีการใช้เม็ดเงินในสื่อดั้งเดิมลดลง เมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 โดยงบโฆษณาของทั้งอุตสาหกรรมโทรทัศน์ลดลง 1% ส่วนวิทยุลดลง 0.1%
สำหรับธุรกิจวิทยุหลังการประมูลคลื่นความถี่วิทยุในระบบเอฟเอ็ม ซึ่ง บมจ. อสมท มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ รวม 47 คลื่น มีฐานผู้ฟังทั้งออนแอร์และออนไลน์แพลตฟอร์มจํานวนมาก และมี Brand Positioning ที่ชัดเจน ล่าสุดได้เปิดตัว “Mellow POP” ออนไลน์แพลตฟอร์ม เต็มรูปแบบอันดับแรกๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มผู้ฟัง ฐานเดิมจาก คลื่น Mellow FM 97.5 MHz ซึ่งมีฐานผู้ฟังส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ตั้งเป้าเป็นคอมมูนิตี้แพลตฟอร์มเพลงออนไลน์ของสายไอดอล อันดับหนึ่ง ที่เน้นแนวเพลง T-POP และ Asian”
ล่าสุด บมจ.อสมท ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลให้ดำเนินการเผยแพร่การประชุม APEC 2022 ในฐานะ Host Broadcaster ทำหน้าที่หลักในการถ่ายทอดสดและเผยแพร่สัญญาณภาพเกี่ยวกับพิธีการและการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 14 -19 พฤศจิกายน 2565 รวมทั้งอำนวยความสะดวกและการให้บริการ โดยเฉพาะในด้านภาพข่าวให้สื่อมวลชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อสมท ได้ผู้อำนวยาการใหญ่แล้ว ‘เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์’
- อสมท เผยพนง.กว่า 300 คนจากเป้า 600 คน สมัครโครงการร่วมใจจากฯ
- เอาออก 700 คน! อสมท เปิดโครงการ ‘เต็มใจจาก’ ฝ่าวิกฤติให้องค์กรไปต่อ