ชาวบ้านฉางร้อง “ศรีสุวรรณ” ช่วยฟ้องระงับ EHIA ทบทวนเส้นเสียงสนามบินอู่ตะเภา ระบุจัดทำรายงาน EHIA ผิดปกติ เปลี่ยนเส้นเสียงใหม่ ทำให้เหลือบ้านเรือน ที่ได้รับผลกระทบ ที่อยู่ในเส้นเสียง NEF-40 จาก 480 ครัวเรือน เหลือ 93 ครัวเรือน ชาวบ้านไม่ยอมรับเส้นเสียงนี้
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่าได้มีแกนนำประชาชนชาวตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง นำโดย นายเชาวลิตร ร่มรื่น กำนันตำบลสำนักท้อน นายประเสริฐ แสงใหญ่ ตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทางเสียง และมลพิษทางอากาศ จากการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภาและพวก ได้เดินทางมาพบเพื่อขอให้ช่วยเป็นธุระ เรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐบาล กรณีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา กระทบสิทธิของชาวบ้านกว่า 480 ครัวเรือน
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก รัฐบาลได้ผลักดันโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภารตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 โดยมอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ดำเนินการว่าจ้างให้เอกชนจัดทำ รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรายงาน EHIA ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไปแล้ว เพื่อนำส่งให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในขั้นสุดท้ายต่อไป
แต่เนื่องจากชาวตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง พบว่า การจัดทำรายงาน EHIA ดังกล่าวมีความผิดปกติหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำแผนที่เส้นเสียงสูงสุด (NEF มากกว่า 40) ครั้งล่าสุด ที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นเสียงใหม่ ทำให้เหลือบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบที่อยู่ในเส้นเสียง NEF-40 ลดลงจากครั้งก่อน 480 ครัวเรือน เหลือเพียง 93 ครัวเรือน จึงทำให้ชาวบ้านไม่สามารถยอมรับได้กับการทำแผนที่เส้นเสียงในครั้งนี้ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งให้มีการทบทวนการคิดคำนวนเสียใหม่ โดยให้สถาบันวิชาการที่เป็นกลางมาดำเนินการศึกษาเพื่อให้เป็นที่ยอมรับตามหลักวิชาการ
ปัญหาที่เกิดขึ้นชาวตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง พยายามเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมาก็ได้ไปยื่นเรื่องให้นาวาอากาศเอก สุชาติ อ่างทอง ประธานคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นสนามบินอู่ตะเภาได้ส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจพิจารณาแล้ว แต่เกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไป จึงได้รวมตัวกันมายื่นเรื่องร้องเรียนให้สมาคมองค์การพิทักษ์ณัฐธรรมนูญไทยได้ช่วยเป็นภาระในการติดตาม ตรวจสอบ และและฟ้องร้องทางศาลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ คงไม่จบลงง่าย ๆ เพราะเมื่อสืบข้อมูลเชิงลึกลงไปแล้วโครงการฯนี้มีกลิ่นไม่ค่อยดีหลายประการ จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน เพราะมีผลประโยชน์นับหมื่นล้านบาท แต่กลับมองเห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้านเป็นเรื่องที่จะต้องลดค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างชัดเจน จำเป็นที่สมาคมฯจะต้องออกมาช่วยชาวบ้านในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กรมธนารักษ์’ เลื่อนเซ็นสัญญา ‘ท่อน้ำอีอีซี’ แจง ทำตามคำสั่งศาลปกครอง
- รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา-รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
- ประชุม ‘กพอ.’ รับทราบความก้าวหน้าลงทุน ‘อีอีซี’ จ่อเสนอครม. อนุมัติ ‘แหลมฉบังเฟส 3’