Business

‘โออาร์’ เปิดความสำเร็จงาน Inclusive Growth Days empowered by OR เดินหน้าพลังงานสะอาด-อีวี

โออาร์ เผยความสำเร็จงาน Inclusive Growth Days empowered by OR ขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าและก้าวต่อไปของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด

หลังจาก โออาร์ จัดงาน Inclusive Growth Days empowered by OR ตอกย้ำวิสัยทัศน์ เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน หรือ Empowering All toward Inclusive Growth อีเวนต์สำคัญที่จะฉายภาพทิศทางใหม่ของการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน (Inclusive Growth) ในทุกมิติ เมื่อวันที่ 22 – 24 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา

โออาร์

ในงานดังกล่าว มีการเผยอินไซต์และเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ด้วยหัวข้อการบรรยาย และเวทีเสวนาจากกว่า 50 ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ และนักธุรกิจชั้นนำ การจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการจาก โออาร์ สินค้าไทยเด็ด พันธมิตร สตาร์ตอัป และอื่น ๆ รวมกว่า 100 บูธ

พร้อมกันนี้ ยังได้จัดพื้นที่ Ownership Center และ Relationship Station เพื่อสนับสนุนธุรกิจ ทุกขนาด ทุกรูปแบบ เอสเอ็มอี สตาร์ตอัป ให้เติบโตไปด้วยกันผ่านโมเดลธุรกิจแห่งอนาคต พร้อมความบันเทิงจากศิลปินและดาราชั้นนำมากมาย

สำหรับเวทีเสวนาวันที่สองในช่วงเช้าของวันที่ 23 กรกฎาคม 2565 ซึ่งจัดขึ้นในธีม  Seamless Mobility นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวเปิดงานในประเด็น Seamless Mobility การเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ

ขณะเดียวกันได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ ตลอดจนองค์กรเอกชนชั้นนำในอุตสาหกรรมมาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนมุมมองในเรื่องของทิศทางพลังงานในอนาคตและยานยนต์ไฟฟ้าที่มีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และในประเทศไทย

ทั้งนี้ เพราะการใช้พลังงานในปัจจุบัน มีสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลค่อนข้างสูงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขยายวงกว้างไปจนถึงเรื่องอุบัติภัยต่าง ๆ ที่ไม่มีใครคาดคิด รวมทั้งมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปจนถึงคนรุ่นหลัง

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานไปสู่พลังงานที่สะอาดขึ้นอย่างไร้รอยต่อนั้นย่อมต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำพาความเปลี่ยนแปลงแบบ Inclusive มาช่วยสร้างการเติบโตร่วมกันกับผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและมั่นคง

S 161783952

ส่วนการเสวนาภายใต้หัวข้อ From Gas to Green พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเปิดประเด็นว่า ทุกภาคส่วนล้วนมีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานที่สะอาดขึ้น

ในส่วนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีหน้าที่ในการจัดหาพลังงานให้ทุกคนและเป็นต้นแบบในการริเริ่มนำพลังงานสะอาดมาใช้ โดยนำร่องจากโครงการ Micro-grid ในต่างจังหวัด เพื่อสร้างพลังงานสะอาดที่ทุกคนในทุกชุมชนสามารถเข้าถึงได้

ด้านนางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มนุษย์ไม่ได้เลิกใช้ฟืนเพราะฟืนหมดโลก แต่มนุษย์เลิกใช้ฟืนเพราะเราพบพลังงานที่ดีกว่า แต่ในทุกการเปลี่ยนผ่านย่อมต้องใช้เวลา จากที่เราใช้พลังงานฟอสซิลกันมายาวนาน

วันนี้เราพบพลังงานที่สะอาดขึ้น เราจึงเลือกที่จะก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่าน นั่นคือสิ่งที่บ้านปูกำลังทำอย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter

การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้เราได้มีพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน เพื่อให้โลกของเราสะอาดขึ้นด้วยมือของเราทุกคน

ขณะที่ นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าเรากำลังอยู่ในปฐมบทของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนในการร่วมกันเปลี่ยน โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด เพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน

สิ่งที่อยากจะฝากคือ เรื่องของภาวะโลกร้อนนั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากภาวะโลกร้อนเกิดผลกระทบที่รุนแรงขึ้นมาวันหนึ่ง ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบเป็นอันดับ 9 ของโลกและจะมี GDP ติดลบ 40% ซึ่งเทียบได้กับการเกิดสถานการณ์โควิดเป็นเวลา 4-5 ปีติดต่อกัน

ดังนั้น การให้ความสำคัญกับเรื่องของพลังงานหมุนเวียนเพื่อสร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดผลกระทบภาวะโลกร้อนจึงเป็นเรื่องจำเป็น

ปิดท้ายที่นายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน โออาร์ ที่กล่าวว่า หนึ่งในพลังงานสะอาดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้เลยก็คือ พลังงานแสงอาทิตย์ การเปลี่ยนผ่านมาใช้ Solar Rooftop จะมีส่วนช่วยทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในราคาที่ถูกลง

ทั้งนี้ จากการประเมินว่า พลังงานแสงอาทิตย์สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 15-20% นั่นหมายความว่า ผู้ใช้จะสามารถคืนทุนค่าติดตั้งได้ภายในระยะเวลา 5-6 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ไม่ยากในบ้านของตัวเอง

รถไฟฟ้า

ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อโลกเพื่อเรา

จากนั้น เป็นการบรรยายบนเวทีในหัวข้อ The World of EV ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อโลกเพื่อเรา โดยรศ.ดร. ยศพงษ์ ลออนวล หัวหน้าศูนย์วิจัย Mobility and Vehicle Technology Research Center (MOVE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และ นายกสมาคมกิตติมศักดิ์ สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย

การมาถึงของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในวันนี้ จริง ๆ แล้วเริ่มต้นอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เพราะในอดีต มีการพูดคุยกันว่า หากเรามีการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ก็น่าจะก้าวไปสู่การใช้รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนเลย

จุดตัดที่สำคัญที่นำไปสู่การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าก็คือ พัฒนาการของแบตเตอรี่ที่สามารถนำมาใส่ไว้ในรถยนต์เพื่อให้พลังงานในการเคลื่อนที่ได้ไกลพอ และเมื่อหมดก็สามารถชาร์จพลังงานเข้าไปใหม่

ในเรื่องของเทรนด์ เห็นได้ชัดว่า ยานยนต์ไฟฟ้ากำลังอยู่ในกระแสความต้องการของผู้บริโภค ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ยอดขายรถยนต์โดยรวมทั่วโลกที่ลดลงในปี 2564 ที่เรายังเผชิญหน้ากับโควิด แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกกลับเติบโตอีกเท่าตัว จากราว ๆ 3 ล้านคันสู่ตัวเลขราว 6.5 ล้านคัน

ตัวเลขดังกล่าว สะท้อนว่า นี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการ และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะแบรนด์รถยนต์จำนวนไม่น้อย อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็ประกาศการก้าวไปสู่การเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวแล้ว

ในอีกด้านหนึ่งที่สำคัญคือ ในประเทศไทยมีผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหลายรายที่กล้าพอที่จะลงทุนและสร้างผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถบัสขนาดใหญ่ ไปจนถึงรถตุ๊กตุ๊ก และรถจักรยานยนต์ ซึ่งแต่ละรายก็ทำได้ดีด้วย และผมคิดว่า คนไทยควรให้การสนับสนุน

อีวี

EV Moments ช่วงเวลาที่ดีต่อใจ ดีต่อโลก

​ต่อกันที่การเสวนาในประเด็น EV Moments ช่วงเวลาที่ดีต่อใจ ดีต่อโลก ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเสวนา ได้แก่ นายศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ซัม (ประเทศไทย) จำกัด นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด และนายวริศ เรียงประยูร กรรมการผู้จัดการ เอ มอเตอร์ส กรุ๊ป

นายศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ซัม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับรถยนต์มือสองครบวงจร เปิดประเด็นว่า ในประเด็น EV เชื่อว่าผู้บริโภคตื่นตัวและรู้ข้อมูลพร้อมแล้ว หากมีตัวเลือกที่น่าสนใจผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยก็พร้อมที่จะเปลี่ยนผ่านมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า

ดังนั้น จึงเป็นงานของภาคธุรกิจที่ต้องทำให้เกิดขึ้น ซึ่งหากต้องการให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้าง มี 3 ปัจจัยที่ต้องพิจารณา นั่นก็คือเรื่องของการใช้งาน (functionality) ความสะดวกในการใช้งานและการชาร์จ (convenience) และเรื่องราคาและความสามารถในการซื้อ (affordability)

ปัจจัยที่ 3 คือปัจจัยที่ท้าทายที่สุด หากราคายังสูง ก็จะมีแต่ผู้ที่มีกำลังซื้อเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ ซึ่งต้องแก้กันที่การแชร์ข้อมูล ตอนนี้ผู้ประกอบการแต่ละฝ่ายกำลังถือจิกซอว์คนละตัว หากสามารถเอาข้อมูลมารวมกัน เราน่าจะแก้ปัญหานี้ได้ดียิ่งขึ้น

ทางด้านนายวริศ เรียงประยูร กรรมการผู้จัดการ เอ มอเตอร์ส กรุ๊ป เสริมว่า ในวันนี้รถ EV ยังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้น และราคารถ EV ก็ยังอยู่ในระดับสูงและมีสินค้าให้เลือกไม่ได้หลากหลายมากนัก

S 161783951

อีกทั้ง จุดชาร์จรถ EV โดยเฉพาะจุดชาร์จแบบ DC ที่ชาร์จได้เร็วยังมีไม่มากนักในประเทศไทย ซึ่งในส่วนนี้ ภาครัฐก็มีแผนการส่งเสริมที่ชัดเจนและน่าจะมีมากขึ้นในอนาคต

ส่วนความหลากหลายของรถยนต์ EV ก็อยู่ที่ผู้ประกอบการที่จะก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดให้มากขึ้น เพื่อเสนอทางเลือกใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค เมื่อมีตัวเลือกที่มากขึ้น ราคาถูกลง ตลาดรถ EV ก็สามารถเติบโตได้ และเชื่อว่าจะเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้ในตอนนี้ จากรถยนต์ที่วิ่งกันอยู่บนท้องถนน 1,200-1,300 ล้านคันทั่วโลกจะมีสัดส่วนที่เป็นรถ EV ไม่ถึง 1%

แต่จากการเติบโตที่ก้าวกระโดด ทำให้เราเห็นว่ายังเหลือพื้นที่ให้รถ EV สามารถเติบโตได้อีกมาก  จึงพูดได้ว่า ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่จะเกิดการใช้อย่างแพร่หลายแน่นอน

แต่เนื่องจากยังเป็นช่วงเริ่มต้น ทุกภาคส่วนยังมีเวลาในการเตรียมตัวรองรับการมาถึงอย่างเต็มรูปแบบของรถ EV ซึ่งผมคิดว่า การสนับสนุนของภาครัฐมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ รัฐก็ต้องบาลานซ์การสนับสนุนรถ EV โดยคำนึงถึงซัพพลายเชนของรถยนต์สันดาปภายในที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมากด้วยเช่นเดียวกัน

โลกแห่งการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ

ปิดท้ายที่การเสวนาในหัวข้อ The World of Seamless Mobility โลกแห่งการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ

S 161783949

เริ่มจากนายบุญมา พนธนกรกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน โออาร์ ที่กล่าวว่า Seamless Mobility เป็นหนึ่งในพันธกิจของโออาร์ ที่ต้องการส่งเสริมให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในทุกการเดินทางด้วยความสะดวกแบบไร้รอยต่อ ผ่านการพัฒนาและยกระดับการทำงาน

โดยเฉพาะการขยายสถานีชาร์จจนครบ 7,000 จุดชาร์จทั่วประเทศภายในปี 2030 เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจต่อการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้รถ EV ในอนาคต

ต่อด้วย นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด  (มหาชน) เล่าว่า การเคลื่อนที่แบบไร้รอยต่อต้องมองรอยต่อระหว่างการเชื่อมโยงของการขนส่งแต่ละที่ด้วย เพราะการเชื่อมรอยต่อมิใช่แค่เพียงการมอบความสะดวกที่มากขึ้นให้กับผู้บริโภค แต่เป็นเรื่องที่จะส่งผลต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจประเทศอีกด้วย

นางธารินี สุทธิปริญญานนท์ นายกสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย ในฐานะผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย บอกว่า ในส่วนของสถานีบริการน้ำมันมีการปรับตัวตามความต้องการของผู้บริโภคมาตลอด

ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันไม่ได้ให้บริการแค่การเติมน้ำมัน แต่มีครบครันในทุก ๆ ด้าน พร้อมที่จะให้บริการคนเดินทาง 24 ชม. ไม่ว่าจะต้องการสินค้าและบริการใด เพื่อให้ทุกการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อนั้นเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง และสะดวกสบายที่สุด

ปิดท้ายที่ นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานกรรมการ บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง จำกัด (เคเคทีที) ได้ยกตัวอย่างการเดินทางแบบไร้รอยต่อในญี่ปุ่น ที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลการเดินทางโดยละเอียดในทุก ๆ ด้านทั้งเวลา ราคา สถานที่ท่องเที่ยว และละเอียดแบบเต็มรูปแบบทั้งในเมืองหลวงและเมืองอื่น ๆ เชื่อมต่อกัน

การเคลื่อนที่แบบไร้รอยต่อในลักษณะเดียวกันกับที่ญี่ปุ่นมีนั้น เมืองไทยก็สามารถทำได้ สิ่งสำคัญคือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องสามารถแชร์ข้อมูลระหว่างกัน และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ผลลัพธ์ที่ดีก็จะตกอยู่กับผู้บริโภค

เมื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อเกิดขึ้นได้จริง ก็จะนำไปสู่ผลเชิงบวกทางเศรษฐกิจตามมาด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo